สุดโหด! ชาวเมียนมาฆ่ายกครัว 3 ศพ เพื่อนร่วมชาติ ฆ่าตัดคอเพื่อนสนิทชิงค่าแรง 5 หมื่น

View icon 460
วันที่ 1 ก.ย. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
สุดโหด! ชาวเมียนมาฆ่ายกครัว 3 ศพ เพื่อนร่วมชาติ ฆ่าตัดคอเพื่อนสนิทชิงค่าแรง 5 หมื่น ก่อนฆ่าทุบหัวภรรยาเพื่อน ขณะตั้งครรภ์ 8 เดือน พร้อมบุตรสาว 7 ขวบ ดับทั้งคู่ หลังจากนั้นขี่รถจักรยานยนต์ของผู้ตายหลบหนีกลับประเทศ ผ่านช่องทางธรรมชาติ

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 31  สิงหาคม 2567 พ.ต.ท.จักราวุธ กลางคาร สารวัตรสอบสวน สภ.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งมีแม่ลูกชาวเมียนมาเสียชีวิตในบ้านเช่า ที่หมู่  4 บ้านห้วยมะปราง  ต.ห้วยยาง จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ( พฐ.) แพทย์เวร รพ.ทับสะแก หน่วยกู้ชีพ อบต.ห้วยยาง เดินทางไปตรวจสอบในบ้านเช่าที่ หมู่ 4 พบนางคินไวไล  อายุ 38 ปี นอนหงายสวมโสร่งสีน้ำเงิน สวมเสื้อสีชมพู สภาพศพขึ้นอืด พบมีบาดแผลโดนตีด้วยของแข็งที่ใบหน้า และศรีษะ โดยนางคินไวไล ตั้งครรภ์ 8 เดือน ใกล้กันพบเด็กหญิงเอ นามสมมุติ อายุ 7 ขวบ สวมเสื้อยืดสีแดง กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน ถูกทุบด้วยของแข็งที่ศีรษะ

จากการชันสูตรเบื้องต้นคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 วัน โดยก่อนพบศพ มีอดีตนักการเมืองท้องถิ่นที่ ต.ห้วยยาง ได้ว่าจ้างนายซอ วิน อู หรือนายขาว อายุ 40 ปี ชาวเมียนมา สามีของนางคินไวไล ให้ไปตัดต้นยางพารา ที่หมู่ 10 บ้านหัวเขา ต.ห้วยยาง แต่ไม่สามารถติดต่อได้ โดยไม่ไปทำงานนานหลายวัน จึงให้ลูกน้องไปตามตัวที่บ้านเช่า จึงพบว่ามีผู้เสียชีวิต 2 ราย จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำศพส่งชันสูตรที่ รพ.ทับสะแก

ต่อมาเมื่อเวลา 15.30 น.วันเดียวกัน นายเกษม พิมพ์สะอาด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 บ้านหัวเขา ต.ห้วยยาง ได้รับแจ้งจากลูกบ้านว่าพบผู้เสียชีวิตเป็นชาวเมียนมาในสวนยางพาราบนภูเขาห่างจากศูนย์พัฒนาเด็กเล็กประมาณ 500 เมตร จึงไปตรวจสอบพบว่ามีชายชาวเมียนมา สวมเสื้อสีน้ำเงินนอนคว่ำหน้าเสียชีวิต โดยถูกของมีคมฟันที่ศีรษะขาดนอนทับเลื่อยยนต์ ห่างประมาณ 20 เมตร มีข้าวบรรจุในถุง กระติกน้ำดื่ม น้ำมันเชื้อเพลิง อุปกรณ์เครื่องใช้วางกองบนพื้น จากนั้นได้แจ้งให้พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยยาง เจ้าหน้าที่ พฐ. กู้ชีพ อบต.ห้วยยาง แพทย์เวร รพ.ทับสะแก เข้าตรวจพิสูจน์ ทราบชื่อ นายขาว สามีของนางคินไวไล ที่พบเป็นศพถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมพร้อมบุตรสาวในบ้านเช่าในช่วงเช้า

นายเกษม กล่าวว่า หลังจากพบภรรยาและบุตรเสียชีวิตช่วงเช้า ช่วงบ่ายตนได้รับแจ้งจากลูกบ้านว่ามีผู้เสียชีวิตในสวนยางพาราบนภูเขา จึงไปตรวจสอบในสวนยางที่ผู้ตายรับจ้างตัดไม้ จึงพบว่ามีความเชื่อมโยงกับศพ 2 แม่ลูกในบ้านเช่าที่หมู่ 4 สำหรับสาเหตุที่มีการฆ่าอย่างโหดเหี้ยม น่าจะมาจากปัญหาของชาวเมียนมา 2 ราย ที่ผู้ตายชักชวนมาทำงาน หลังจากอดีตนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่งซึ่งเป็นนายจ้างจ่ายเงินค่าแรงเป็นเงินสดให้ผู้ตายแล้ว เพื่อนผู้ตาย 2 รายเกิดความโลภชวนกันไปลงมือฆ่าเพื่อชิงเอาค่าแรงประมาณ 4 - 5 หมื่นบาทแล้วหลบหนีไป โดยลงมือฆ่านายขาว เมื่อวันที่ 29  สิงหาคม 2567 จากนั้นคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ของผู้ตายไปฆ่าเมียและลูกเพื่อปิดปาก ซึ่งกรณีความรุนแรงแบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในหมู่บ้าน

ขณะที่น้องชายของผู้ตาย อายุ 32 ปี ชาวเมียนมา แจ้งว่าตนและพี่ชาย พี่สะใภ้ เป็นชาว อ.ตะนาวศรี จ.มะริด เดินทางมาทำงานในไทยมีบัตรถูกต้องตามกฎหมายนานกว่า 10 ปี คาดว่าพี่ชาย พี่สะใภ้และหลานสาว ถูกเพื่อนชาติเดียวกัน 2 ราย ฆ่าปิดปากหลังจากมีการชิงทรัพย์ค่าแรง  ชิงสร้อยคอทองคำน้ำหนักหลายบาทจากภรรยาผู้ตาย รวมทั้งรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ ซึ่งมีพยานยืนยันว่าพี่สะใภ้มีปากเสียงรุนแรงกับเพื่อนสามี 2 ราย ก่อนเสียชีวิตพร้อมบุตรสาว สำหรับเพื่อนของพี่ชาย 2 คน ที่ชวนไปตัดต้นยาง เป็นเพื่อนสนิทของพี่ชายอาศัยอยู่ในบ้านเช่าหลังเดียวกัน  หลังลงมือก่อเหตุเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2567 คาดว่าคนร้ายได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีกลับประเทศเมียนมาผ่านช่องทางธรรมชาติที่มีจำนวนมากในพื้นที่ ต.ห้วยยาง