เช้านี้ที่หมอชิต - ความคืบหน้าเหตุดินไหลทับบ้านเรือนประชาชน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 13 คน ที่จังหวัดภูเก็ต วานนี้หลายหน่วยงานเร่งนำเครื่องจักรหนักเข้าพื้นที่ ช่วยฟื้นฟูเหตุดินโคลนถล่ม ขณะที่ชาวบ้านเรียกร้อง จี้ให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง บนพื้นที่บุกรุกเพิ่มเติม 5 ไร่ ด้านหลังองค์พระใหญ่เพื่อฟื้นฟูป่า
เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานได้นำเครื่องจักรหนัก เข้าเคลียร์พื้นที่ ทั้งการตักดินโคลน ตัดต้นไม้ และเจาะก้อนหิน ที่ไหลหลากลงมา เพื่อเปิดทางให้ฟื้นฟูบ้านแต่ละหลัง เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านผู้ประสบภัย ดินโคลนถล่มที่ตำบลกะรน อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต
ชาวบ้านผู้ประสบภัย บอกว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรตรวจสอบรายได้ของมูลนิธิแห่งหนึ่ง ที่เป็นผู้ดำเนินงานก่อสร้างพระใหญ่ จนกลายเป็นแลนด์มาร์ก จุดเช็คอินของจังหวัดภูเก็ต แต่สร้างขึ้นโดยไม่ได้มีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา อีกทั้งยังมีการขยายพื้นที่เพิ่มเติมจากเดิมประมาณ 4 ไร่ เพื่อก่อสร้าง ทั้งลานจอดรถ ห้องน้ำ และอาคารบางส่วน ตนเห็นว่าสมควรรื้อถอน และปิดพื้นที่ส่วนเกินดังกล่าว เพื่อฟื้นฟูป่า
ชาวบ้านผู้ประสบภัย บอกว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะป่าไม้ควรเร่งควบคุม หยุดการขยายเขตการบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ของมูลนิธิดังกล่าวที่ดูแลพระใหญ่ เพราะเชื่อว่าเป็นต้นเหตุทำให้เกิดดินโคลนถล่ม
นายบรรณรักษ์ เสริมทอง รองอธิบดีกรมป่าไม้ เผยถึงเรื่องการตรวจสอบสาเหตุที่แน่ชัดของดินไหล บอกว่า ให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนของ สภ.กะรน ต้องไปหาผู้เชี่ยวชาญมาพิสูจน์ข้อเท็จจริงเหตุดินไหลตรงนั้นว่าเกิดจากการก่อสร้างลานจอดรถ และอาคารตรงนั้นหรือไม่ เพื่อมาเป็นหลักฐานมัดตัวดำเนินคดีกับผู้ดำเนินการก่อสร้าง แต่ในเบื้องต้นเราเห็นชัดแล้วว่าดินมันไหลมาจากตรงนั้น
