เสรีพิศุทธ์ ถอนตัวร่วมรัฐบาล ร่ายยาวตัดสัมพันธ์

View icon 212
วันที่ 29 ส.ค. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เสรีพิศุทธ์ ถอนตัวร่วมรัฐบาล ร่ายยาวตัดสัมพันธ์ คบ 50 ปีทำได้แค่นี้ จะคบต่อไปทำไม จากนี้รบกันชัดเจน เปิดแช็ตยืนยันเคยไปพบทักษิณ ชั้น 14 ประเมินอายุรัฐบาลอุ๊งอิ๊ง ไม่ถึงปี สั้นกว่าเศรษฐา

วันนี้ (29 ส.ค.67) ที่พรรคเสรีรวมไทย พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย แถลงจุดยืนของพรรคเสรีรวมไทย หลังพรรคมีมติ 7 ต่อ 4 ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล กับพรรคเพื่อไทย โดยระบุว่า พรรคเสรีรวมไทยต้องการทำงานให้บ้านเมือง เมื่อไม่มีโอกาสทำงาน ก็ไปทำในฐานะอื่น และได้แจ้ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผ่านนายสรวงศ์ เทียนทอง ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ว่าขอถอนตัว

"พรรคเสรีรวมไทยจะเป็นอิสระต้องทำหน้าที่ฝ่ายค้านตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพื่อให้พรรคได้สร้างผลงานตามอุดมการณ์และแนวนโยบายของพรรคอย่างเต็มที่ รวมถึงรักษาประโยชน์ประชาชน หากอยู่ร่วมรัฐบาลต่อ โดยมารยาทจะไม่สามารถวิจารณ์นโยบายของรัฐบาลได้ จะอึดอัด ทำอะไรต้องยอมให้เขาเหยียบตลอดเวลา"

ผู้สื่อข่าวถามถึงเหตุผลที่ถอนตัวเกิดจากความน้อยใจหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า ผมโกหกใครไม่เป็น ผมน้อยใจ เห็นว่าวันที่ไปประชุมพรรคเพื่อไทยเสนอชื่อ อุ๊งอิ๊งเป็นนายกฯ ได้พูดว่าพรรคเสรีรวมไทยรับใช้เพื่อไทยมาทั้งชีวิตแล้ว เผื่อมีโอกาสร่วมงานกับรัฐบาลบ้าง 

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวด้วยว่า ตนเคยเตือนไปแล้ว ทั้งในยุคของนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ที่เสนอตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรี ว่าจะถูกสั่งให้พ้นตำหน่งนายกฯ ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลช่วงนี้ที่ชุลมุนวุ่นวาย มีหลายพรรคอยากเป็นรัฐบาล คือ พลังประชารัฐ ประชาธิปัตย์ และตอนนี้มีปัญหา ซึ่งตนมองว่า น.ส.แพทองธารไม่มีปัญญาจัดการปัญหาได้ มีแต่พ่อเท่านั้นที่บริหารจัดการเรื่องนี้

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เล่าความหลังเมื่อครั้งเป็น ผบ.ตร. มีนักการเมือง มาขอเรื่องการแต่งตั้งผู้การ ผู้กำกับการ ตนก็ให้หมด แต่ตนไม่เคยได้รับการตอบแทน ยกเว้นนายสุเทพที่ตอบแทนตน ที่ผ่านมา รัฐบาลชุดหนึ่งเคยเสนอให้เงิน 300 ล้านบาท และตำแหน่งรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง แต่ตนไม่รับ เลือกไปอยู่กับพรรคเพื่อไทย ยอมเป็นฝ่ายค้าน ได้ตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาฯ มีโอกาสช่วย สส. พรรคเพื่อไทย และรัฐมนตรีอีกหลายคน โดยไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งใคร และไม่ใช่การกลับผิดให้เป็นถูก เมื่อเลือกตั้งเสร็จ พรรคตนมีเสียงเดียว แต่จะเอาไปเทียบกับพรรค 1 เสียงอื่นได้อย่างไร

เมื่อถามว่านายทักษิณรับปากจะให้ตำแหน่งหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า “พูดกับผมไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ว่าเป็นหนี้ผม แต่พูดแล้วก็เฉย ก็ไม่เป็นไรเพราะการจัดตั้งรัฐบาลเป็นเรื่องของ น.ส.แพทองธาร จะเอา สส. หรือไม่เอา สส. ก็ได้ เป็นอำนาจนายกฯ ตั้งใครก็ได้ แต่ลืมผมทุกที ไม่รู้ว่าเขาคิดอย่างไร อาจคิดว่าเสรีฯ เป็นพรรคเสียงเดียว 

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ยังได้นำข้อความในแอปพลิเคชันไลน์ที่มีการพูดคุยกับคนที่ทำหน้าที่จัดคิวเข้าพบนายทักษิณที่โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 ขณะพักรักษาตัว เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันว่ามีการเข้าพบนายทักษิณถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกคือ 14 พ.ย.66 และอีกครั้งในวันที่ 10 ก.พ.67 โดยทั้ง 2 ครั้งมีการพูดคุยเรื่องที่นายทักษิณ จะไม่เอาตระกูลวงษ์สุวรรณ เข้าร่วมรัฐบาล ส่วนเรื่องอื่นขอให้รอเป็นไฮไลต์ในครั้งต่อไป การเปิดหลักฐานและการแฉในครั้งนี้ถือเป็นการตัดความสัมพันธ์ หลังจากนี้หากมีการติดต่อมาเทียบเชิญให้เป็นรองนายกรัฐมนตรีก็จะไม่รับ

ผู้สื่อข่าวถามว่า การแถลงข่าววันนี้เป็นการหันหลังให้ทักษิณแล้วหรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ตอบว่า “ใช่” เดินมาขนาดนี้ก็รบกันชัดเจน คบมา 50 ปี ทำได้แค่นี้ จะคบต่อไปทำไม จากนี้ขอให้รอดูว่าคนในสังคมอยากให้เสรีทำอะไร  ป.ป.ช.จะเรียกไปสอบเมื่อไร เพราะจะติดคุกกันไปหมด ตอนนี้รอเวลา หนังภาคนี้เป็นภาคแรก

“เรื่องเกียรติยศศักดิ์ศรี ตนมั่นใจว่าไม่ด้อยกว่าใคร นายทักษิณบางทีมีความคิดเจิดจ้าแต่ลืมไป แม้แต่เรื่องแต่งชุดขาวโดยไม่มีสิทธิแต่งตามกฎกระทรวง ซึ่งมีคนไปแจ้งความแล้ว นายทักษิณลืมไปว่าไม่ใช่หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ถูกจำคุก ไม่สามารถเป็นสมาชิกพรรค แล้วไปแสดงตัวในฐานะอะไร เชิญทุกพรรคการเมืองมาบ้านจันทร์ส่องหล้า ขอสัญญาว่า พรุ่งนี้ประชุมที่อาคารชินวัตร 3 นี่คือครอบงำพรรค”

พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ประเมินอายุรัฐบาลแพทองธาร ว่าไม่ถึงปี สั้นกว่าเศรษฐา อุ๊งอิ๊งก็มีเรื่องเยอะ คนเตรียมร้องเรียนเยอะ แต่พรรคเสรีรวมไทยไม่ร้องหรอก เพราะเห็นเป็นเด็ก เป็นลูกหลาน ส่วน พล.อ.ประวิตรกับนายทักษิณ จากนี้สู้กันเต็มที่ แต่ป้อมสู้ไม่ได้