ฝนตกหนัก ดินไหลทับบ้าน 8 หลัง

View icon 85
วันที่ 28 ส.ค. 2567
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - ดินโคลนไหลทับบ้าน 8 หลังในหมู่บ้านกลางเมืองภูเก็ต หลังฝนตกหนักตั้งแต่เมื่อวาน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบโครงสร้างแล้ว สั่งอพยพชาวบ้านทันที 

เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นช่วง 05.00 น. เมื่อเช้าที่ผ่านมา หลังในตกหนักตั้งแต่เมื่อวานนี้ ทำให้ดินโคลนจากภูเขา ไหลลงมาทับบ้านเรือน 8 หลัง ในหมู่บ้านเทพบุรี ตำบลรัษฎา อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต กระทั่งช่วงเช้า เจ้าหน้าที่งานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลตำบลรัษฎา เข้าตรวจสอบความเสียหาย ปรากฎว่า พบดินโคลนไหลทับพื้นที่หลังบ้าน ทั้งในครัวชั้น 1 และห้องนอนชั้น 2 ขณะที่บ้านบางหลังดินโคลนไหลเข้าห้องนอน จนเปิดประตูห้องนอนไม่ได้

ซึ่งเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลรัษฎา ได้มาตั้งโต๊ะให้ชาวบ้านที่ประสบภัย ลงทะเบียนเพื่อสำรวจความเสียหาย

ทั้งนี้ หลังสำรวจความเสียหาย เจ้าของบ้านแต่ละหลังได้ขนย้ายทรัพย์สินสิ่งของ ออกมาจากจุดเสี่ยงในบ้าน และบางหลังก็นำรถมาขนย้าย ไปอาศัยอยู่ในที่ปลอดภัยชั่วคราว เจ้าหน้าที่งาน ปภ. เทศบาลตำบลรัษฎา และกำลังทหารเรือจากทัพเรือภาคที่ 3 ช่วยเหลือขนย้ายสิ่งของ

ส่วนการตรวจสอบเหตุดินโคลนถล่มทับจนมีผู้เสียชีวิต 13 คน ที่ตำบลกะรน อำเภอเมืองภูเก็ต ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจากการบุกรุกพื้นที่ป่า สร้างพระพุทธรูป พระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี หรือพระใหญ่ และสถานที่ปฏิบัติธรรม บนยอดเขานาคเกิด

ล่าสุด นายบรรณารักษ์ เสริมทอง รองอธิบดีกรมป่าไม้ ไปติดตามการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่า มีการบุกรุกพื้นที่เพิ่มเติมจากที่ขอใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และยังบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ถาวรอีก 5 ไร่ 19 ตารางวา โดยมีการสร้างอาคารอเนกประสงค์, ห้องน้ำ, หอติดตั้งถังน้ำ เนื่องจากอยู่ในเขตป่าไม้ถาวร ป่าควนเขานาคเกิด และป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเทือกเขานาคเกิด ก่อนเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.ฉลอง ดำเนินคดีกับประธานมูลนิธิแห่งหนึ่ง กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ฯ และ พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมฯ

ส่วนที่จังหวัดสตูล ฝนที่ตกสะสมบนเทือกเขาบรรทัดหลายวัน ก็ทำให้มีน้ำป่าจากภูเขา ไหลบ่าลงมาท่วมพื้นที่ราบลุ่มต่ำในอำเภอมะนัง และอำเภอละงู บางจุดน้ำหลากท่วมเส้นทางสัญจร ลำคลองหลายสายระดับน้ำสูงขึ้น และมีน้ำไหลเชี่ยวแรง ทางการได้ประกาศเตือนให้เฝ้าระวังจุดเสี่ยงอันตราย และให้เร่งเก็บข้าวของขึ้นที่สูง

พื้นที่เกาะหลีเป๊ะ มีฝนตกหนักทำให้น้ำไหลลงสู่ทะเลไม่ทัน หมู่บ้านชาวเล อุลักลาโว้ย ซึ่งเป็นพื้นที่แอ่งกระทะ และมีรีสอร์ตของเอกชนปิดล้อมไว้ เกิดน้ำท่วมขัง ทั้งนักเรียนที่จะไปเรียนหนังสือ และชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เร่งใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ ดันน้ำออกทะเล เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศวันนี้ ตัวการร่องมรสุมเลื่อนลงมาแล้ว พาดผ่านภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลางตอนบน ประกอบกับมรสุมประจำฤดูมีกำลังค่อนข้างแรง ส่งผลให้ทั่วประเทศต้องระวังฝนอย่างต่อเนื่อง

วันนี้ ภาคเหนือ ตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ปริมาณฝนอยู่ที่ 80% ของพื้นที่ เจอฝนได้เกือบทุกจังหวัด

ภาคอีสาน ฝนตก 60% ของพื้นที่ ตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ที่จังหวัดเลย หนองคาย หนองบัวลำภู อุดรธานี ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง ฝนตก 70% ของพื้นที่ ตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ที่จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม และสมุทรสาคร ขณะที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ฝนตกหนัก 80% ของพื้นที่

ภาคตะวันออก ฝนตก 70% ของพื้นที่ เฝ้าระวังฝนทุกจังหวัด ยกเว้นที่สระแก้ว และที่ต้องจับตาสถานการณ์ฝนรุนแรงหลังจากร่องมรสุมเลื่อนลงมา คือ ภาคใต้ฝั่งอันดามัน ทำให้ฝนตกหนักถึงหนักมาก อยู่ที่ 80% ของพื้นที่ ระวังที่จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ส่วนฝั่งอ่าวไทย ฝนตก 60% ของพื้นที่ ตกหนักบางแห่ง

ทีมข่าวลงพื้นที่สอบถามผู้ประกอบร้านวัสดุก่อสร้างในจังหวัดนนทบุรี พบว่า ประชาชนเริ่มทยอยซื้อกระสอบทราย นำไปกั้นน้ำ รับมือกับภัยน้ำท่วม ทำให้ทางร้านต้องเพิ่มสต็อกไว้วันละ 200-300 ถุง เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า

ผู้ค้าบอกว่า กระสอบทรายจะขายดีช่วงน้ำท่วม แต่กำไรน้อย เนื่องจากเป็นสินค้าบรรเทาความเดือดร้อน ไม่อยากจะขึ้นราคา ส่วนใหญ่ก็เลยเลือกบวกกำไรกับกลุ่มที่ซื้อไปก่อสร้างมากกว่า ปีนี้เศรษฐกิจไม่ดี การค้า การก่อสร้างน้อยลง อ่วมไปตาม ๆ กัน

ด้านศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินสถานการณ์น้ำท่วมปีนี้ สร้างความเสียหายราว 10,000 ล้านบาท คาดเหตุการณ์ไม่ซ้ำรอยเมื่อปี 2554

ข่าวที่เกี่ยวข้อง