ตำรวจไซเบอร์บุก 4 บริษัท เทรดหุ้นต่างประเทศ ตุ๋นเหยื่อเสียหายกว่า 70 ล้าน พบเป็นร้านก๋วยเตี๋ยว และบ้านพัก รวบกลุ่มกรรมการบริษัทเข้าซังเต
วันนี้ ( 24 ส.ค.67) พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 ส่งเจ้าหน้าที่ออกสืบสวนสอบสวน หลังมีผู้เสียหายถูกกลุ่มมิจฉาชีพ ชักชวนให้ร่วมลงทุนเทรดหุ้นต่างประเทศ อ้างว่าได้รับผลตอบแทนสูง ผู้เสียหายหลงเชื่อ โอนเงินให้กลุ่มผู้ต้องหา รวม 9 ครั้ง มูลค่ากว่า 3,730,000 บาท
จากการสืบสวนพบว่า กลุ่มมิจฉาชีพได้เปิดบัญชี ในรูปแบบบริษัท เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และใช้เป็นช่องทางการรับโอนเงินที่ได้จากผู้เสียหาย เมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่า หลังจากเหยื่อโอนเงินเข้าบัญชีม้าของบริษัทแล้ว จะมีการโอนเงินออกไปยังบัญชีม้าอื่น ๆ ในทันที กระจายอยู่หลายจังหวัดทั่วประเทศ และไม่มีการประกอบกิจการจริง จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายค้นกลุ่มบริษัท 4 แห่ง จุดที่ 1 บริษัทแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.หนองคาย ซึ่งจดทะเบียนเป็นบริษัทผลิตผลิตภัณฑ์จากสัตว์ แต่พบว่ามีสภาพเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเล็ก ๆ ในชุมชน มีแค่ 1 โต๊ะ
จุดที่ 2 บริษัท ในพื้นที่ จ.ระยอง ซึ่งจดทะเบียนการค้าเป็นบริษัทขายปลีกเสื้อผ้า แต่พบว่าเป็นห้องแถวชั้นเดียวสำหรับพักอาศัย ภายในไม่มีการประกอบกิจการแต่อย่างใด จุดที่ 3 ห้างหุ้นส่วนจำกัด ที่ จ.พิษณุโลก จดทะเบียนการค้าเพื่อจำหน่ายอาหารทะเลแปรรูป อาหารสัตว์ แต่มีสภาพเป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ ไม่มีการประกอบกิจการค้าแต่อย่างใด และจุด 4 บริษัทที่ จ.พระนครศรีอยุธยา จดทะเบียนการค้าเพื่อขนส่งสินค้าและคนโดยสารทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่พบว่าสภาพจริงเป็นร้านขายของชำและบ้านพักอาศัย ไม่มีการประกอบกิจการบริษัทแต่อย่างใด
ทั้งนี้จากการตรวจสอบความเชื่อมโยงของกลุ่มบริษัทดังกล่าว พบว่ามีการหลอกลวงผู้เสียหายจากทั่วประเทศ ซึ่งมีเหยื่อทยอยเข้าแจ้งความแล้ว จำนวน 27 คน ความเสียหายกว่า 70,391,813 บาท
พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้ออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องไว้แล้ว 9 คน และจับกุมได้แล้ว 4 คน ทำหน้าที่เป็นกรรมการบริษัทและเปิดบัญชีธนาคาร โดยผู้ต้องหายอมรับว่า ได้รับการว่าจ้างให้ไปจดทะเบียนพาณิชย์ในลักษณะห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือ บริษัทจำกัด เพื่อนำไปเปิดบัญชีธนาคาร ซึ่ง 1 คน จะต้องเปิดบัญชีธนาคารให้ได้จำนวน 5 บัญชี โดยจะได้รับค่าตอบแทนบัญชีละ 7,000 บาท ซึ่งถือว่าสูงกว่าค่าจ้างการเปิดบัญชีม้าในนามบุคคลธรรมดา ซึ่งขณะนี้ทางตำรวจไซเบอร์อยู่ระหว่างขยายผลเพื่อจับกุมนายทุนและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด
