รีดเงินคดีรับน้อง ยืนยันไม่ใช่ตำรวจ แต่เป็นมิจฉาชีพ

View icon 57
วันที่ 21 ส.ค. 2567
ข่าวในประเทศ
แชร์
ผกก.สภ.บางศรีเมืองยืนยัน ไม่มีตำรวจเรียกรับเงินจากคดีรับน้อง เชื่อเป็นมิจฉาชีพโทรแอบอ้างหลอกเอาเงิน

จากกรณีทนายความของกลุ่มนักศึกษา ม.ดัง จ.นนทบุรี ทั้ง 4 คน เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ในคดีร่วมกันทำร้ายร่างกายนักศึกษาขั้นปีที่ 1 พร้อมผู้ปกครองจนได้รับบาดเจ็บหน้าอาคารเรียนภายในมหาวิทยาลัย ก่อนที่ทนายความของกลุ่มนักศึกษาจะออกมาเปิดเผยว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับรอง ผกก.สภ.บางศรีเมือง โทรศัพท์มาเรียกรับเงินเพื่อช่วยเคลียร์คดีให้กับกลุ่มนักศึกษา และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางศรีเมือง นำภาพขณะบุกค้นห้องของแฟนสาวไปเผยแพร่กับสื่อโดยไม่ได้รับความยินยอมนั้น

วันที่ 21 ส.ค.67 พ.ต.อ.สมชาย แจ้งธรรมมา ผกก.สภ.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า จากการที่ทนายความฝ่ายนักศึกษาออกมาให้ข่าวว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับ รอง ผกก.สภ.บางศรีเมือง ชื่อสุรศักดิ์ โทรศัพท์ไปเรียกรับเงินจากกลุ่มนักศึกษาเพื่อช่วยเหลือด้านคดีนั้น ตนในฐานะ ผกก.สภ.บางศรีเมือง ได้ทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวแล้ว ไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.บางศรีเมืองคนใดชื่อสุรศักดิ์แม้แต่คนเดียว ขณะเดียวกันตนก็ตรวจสอบตามชื่อและยศที่ถูกกล่าวอ้างไปยัง ภ.จว.นนทบุรี ก็ไม่พบว่ามีนายตำรวจคนใดชื่อสุรศักดิ์

เรื่องนี้ตนคาดว่าบุคคลที่โทรไปอ้างตัวกับกลุ่มนักศึกษากลุ่มนี้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับรอง ผกก.สามารถเคลียร์คดีหรือให้ความช่วยเหลือในด้านคดีกับกลุ่มนักศึกษาน่าจะเป็นมิจฉาชีพมากกว่า โดยมิจฉาชีพในลักษณะนี้มักจะติดตามข่าวสารดูข้อมูลจากข่าวแล้วหาเบอร์โทร หาช่องทางติดต่อไปเพื่อจะหลอกเอาเงินจากการแอบอ้างตัว ซึ่งปัจจุบันจะพบว่ามีผู้ตกเป็นเหยื่อมาแล้วหลายราย ตนขอยืนยันว่าไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคนใดโทรศัพท์ไปเรียกรับสินบนเพื่อช่วยเหลือคดีตามที่ทนายความได้ให้สัมภาษณ์ไว้ หากเกิดเหตุการณ์ในลักษณะตนขอให้ทางผู้เสียหายเดินทางมาตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำโรงพักจะปลอดภัยกว่า

พ.ต.อ.สมชาย กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องที่แฟนของนักศึกษารุ่นพี่ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจบุกค้นห้องพักซึ่งเป็นห้องที่ใช้เป็นสถานที่รับน้องโดยไม่มีหมายค้น แล้วปรากฎว่ามีภาพขณะตรวจค้นภายในหลุดออกไปเป็นภาพข่าวซึ่งผิดเงื่อนไขที่ตกลงกันไว้นั้น ในเบื้องต้นทางโรงพักยืนยันว่าไม่ได้มีการนำภาพคลิปขณะเข้าตรวจค้นห้องพักไปให้สื่อ มีแต่เพียงส่งรายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามระดับชั้นรับทราบเท่านั่น หากคลิปดังกล่าวที่หลุดไปสร้างเสียหายให้กับผู้เสียหายจริง ทางผู้เสียหายก็สามารถเดินทางมาแจ้งความเอาผิดหรือให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจสอบได้