ปากีสถาน ตรวจสอบสนามบินเข้มงวด พ่นยาฆ่าต่อเนื่อง และตรวจหาแผลผู้โดยสาร หลังเพิ่งพบผู้ป่วย “เอ็มพ็อกซ์” หรือ “ฝีดาษลิง” เดินทางกลับมาจากประเทศในอ่าวเปอร์เซีย
วันนี้ (18 ส.ค. 67) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า สนามบินในเมืองเปชาวาร์ ประเทศปากีสถาน ยังคงเข้มงวดในการตรวจสอบ และดำเนินมาตรการพ่นยาฆ่าเชื้อทั่วสนามบินอย่างต่อเนื่อง เมื่อวานนี้ (17 ส.ค.) ซึ่งมีขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากทางการปากีสถานยืนยันกรณีพบไวรัส “เอ็มพ็อกซ์” (Mpox) หรือ “ฝีดาษลิง” ในผู้ป่วยที่เดินทางกลับมาจากประเทศในอ่าวเปอร์เซีย
โดยพนักงานในท่าอากาศยานสวมหน้ากาก และชุดป้องกัน ออกฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อบนกระเป๋าเดินทางที่อยู่บนสายพานลำเลียงและบริเวณต่าง ๆ ของสนามบิน นอกจากนี้ พนักงานยังได้ตรวจหาแผลที่มือ และคอของผู้โดยสารที่เดินทางมาอีกด้วย
โดยการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษลิงล่าสุดในแถบแอฟริกา เป็นสายพันธุ์ใหม่ ที่เรียกว่า "เคลด วันบี" (Clade Ib) ซึ่งแพร่กระจายได้ง่าย และรุนแรงกว่าเดิม ซึ่งองค์การอนามัยโลก ได้ประกาศให้โรคฝีดาษลิง (mpox) เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับโลก ครั้งที่ 2 ในรอบ 2 ปีแล้ว
ทั้งนี้ เชื้อ “เอ็มพอกซ์” หรือ “ฝีดาษลิง” เป็นการติดเชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดตุ่มหนองและมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ ถึงแม้อาการไม่รุนแรง แต่อาจทำให้เสียชีวิตได้ ปัจจุบัน แบ่งออกเป็น 2 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์แอฟริกากลาง หรือ "เคลด วัน" (Clade I) และสายพันธุ์แอฟริกาตะวันตก หรือ "เคลดทู" (Clade II) ซึ่งจากสถิติ สายพันธุ์ “เคลด วัน” จะมีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่า และสามารถแพร่กระจายผ่านการสัมผัสใกล้ชิด รวมถึงการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ติดเชื้อ โดยพบอัตราการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อ 4 ใน 100 คน
