ข่าวภาคค่ำ - นโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ท่ามกลางปัจจัยด้านลบรุมเร้า เป็นการบ้านโจทย์หิน ที่หลายฝ่ายกำลังเฝ้าจับตาผลงานจากรัฐบาลใหม่
โจทย์หินเศรษฐกิจ รอรัฐบาลใหม่เร่งสาง
"อุ๊งอิ๊ง" นางสาวแพทองธาร ชินวัตร จะมารับไม้ต่ออะไรบ้างจากนายเศรษฐา ทวีสิน กลายเป็นกระแสที่หลายคนจับตามอง โดยนักเศรษฐศาสตร์อย่าง
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย บอก ความท้าทายด้านเศรษฐกิจ อยู่ที่การฟอร์มทีมเศรษฐกิจชุดใหม่ เพราะด่านแรกที่จะเจอ คือ ตกลงโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ตยังทำต่อ เพื่อลดแรงกดดันทางการเมือง หรือ จะปรับแนวทางช่วยเฉพาะกลุ่มเปราะบางอย่างเดียว ซึ่งต้องดูข้อกฎหมายประกอบ อาจมีความเสี่ยงถูกฟ้องร้อง คาดว่าหากสุดท้ายรัฐบาลตัดสินใจไปต่อ จะช่วยเศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ 2.5-2.7% แต่หากไม่มีโครงการขยายตัว 2.4-2.6%
ยังมีความท้าทายคือ แก้ปัญหาค่าครองชีพ เรื่องปากท้องของประชาชน การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ จะสามารถทำได้หรือไม่ เพราะกระทบต้นทุนการผลิตของภาคเอกชน ราคาพลังงานยังอยู่ในระดับสูง หากเป็นไปได้ ขอเศรษฐกิจฟื้นตัวในสิ้นปีนี้
หนุนชูการลงทุนเป็นวาระแห่งชาติ
ไม่ต่างจากภาคอุตสาหกรรม ขอนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เร่งสร้างความเชื่อมั่น ส่งเสริมการลงทุนเป็นวาระเร่งด่วน และลุยตลาดเชิงรุก เพื่อสร้างโอกาสทองให้กับภาคลงทุนไทย
เอกชนแนะรัฐช่วยกลุ่มเปราะบาง
ส่วน ภาคเอกชนไทย อยากให้รัฐบาลใหม่ ฟอร์มทีม ครม. ไม่เกิน 1 เดือน และเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้อยู่รอด สกัดสินค้าไม่ได้มาตรฐานจากต่างประเทศ และสร้างแรงจูงใจคนไทยซื้อสินค้าไทย
