พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานของขวัญ ช่อดอกไม้ แสดงความยินดีนักกีฬาโอลิมปิกของไทย ขณะที่ ประธานโอลิมปิกฯ ภูมิใจผลงาน ยกย่อง “น้องเทนนิส-โค้ชเช” ต้นแบบความสำเร็จ พร้อมขอบคุณแทนคนไทยทั้งประเทศ
วันนี้ (16 ส.ค.67) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ห้องรับรองบ้านอัมพวัน โอลิมปิกแห่งประเทศไทย ฯ ผู้แทนพระองค์ได้อัญเชิญของขวัญพระราชทานจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานของขวัญ ช่อดอกไม้ และกระเช้า มอบให้แก่นักกีฬาที่ได้รับเหรียญรางวัลในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 ครั้งที่ 33 เพื่อพระราชทานกำลังใจให้แก่นักกีฬาที่ได้รับเหรียญรางวัล สร้างความปลื้มปิติเป็นล้นพ้น และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้แก่นักกีฬา ผู้ฝึกสอน สมาคมกีฬาและเจ้าหน้าที่ ตลอดจนคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ในโอกาสอันเป็นมงคลนี้
จากนั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นประธานจัดงานพิธีมอบรางวัลและเลี้ยงอาหารกลางวัน แสดงความยินดีให้แก่นักกีฬา ผู้ฝึกสอน สมาคมกีฬาและคณะเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ทั้งนี้ ผลการแข่งขัน ทัพนักกีฬาไทยสามารถคว้าเหรียญทองได้ 1 เหรียญ จากเรืออากาศโทหญิงพาณิภัค วงศ์วัฒนกิจ (เทควันโด) 3 เหรียญเงิน จาก สิบตำรวจโท กุลวุฒิ วิทิตศานต์ (แบดมินตัน) นายธีรพงศ์ ศิลาชัย (ยกน้ำหนัก) และนายวีระพล วิชุมา (ยกน้ำหนัก) กับ 2 เหรียญทองแดง จากจ่าอากาศตรีหญิง จันทร์แจ่ม สุวรรณเพ็ง (มวยสากล) และนางสาว สุรจนา คำเบ้า (ยกน้ำหนัก) รวมทั้งสิ้น 6 เหรียญรางวัล
โดย พล.อ.ประวิตร ได้ทำพิธีมอบของรางวัลจากคณะกรรมการโอลิมปิกฯ พร้อมกล่าวแสดงความยินดี และขอบคุณนักกีฬา ผู้ฝึกสอนสมาคม รวมทั้งเจ้าหน้าที่ทุกคนแทนคนไทยทั้งประเทศ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ที่ได้ทุ่มเทฝึกซ้อม กระทั่งได้สิทธิเข้าร่วมการแข่งขันโอลิมปิกในครั้งนี้ ซึ่งมีหลายสมาคมฯ ประสบความสำเร็จทำผลงานได้อย่างน่าพอใจ และทำให้นานาประเทศได้เห็นถึงศักยภาพของนักกีฬาทีมชาติไทย อีกทั้งทัพนักกีฬาไทยก็ยังสามารถรักษามาตรฐานผลการแข่งขันกีฬาระดับโลกไว้ได้อย่างงดงาม และยังสร้างชื่อเสียงจากการได้รับเหรียญรางวัลรวมมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มประเทศอาเซียนด้วยกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลงานของ“น้องเทนนิส -โค้ชเช” ที่ได้เหรียญทองโอลิมปิก 2 สมัยติดต่อกัน นับเป็นนักกีฬาคนแรกของไทย และเป็นประวัติศาสตร์ที่จะต้องถูกจารึกไว้ ซึ่งเชื่อว่าผลงานครั้งนี้ สะท้อนความสำเร็จได้ตามเป้า อันเกิดจากนโยบายสำคัญ ที่ให้ไว้โดยเฉพาะเรื่องการใช้ “วิทยาศาสตร์การกีฬา” เพื่อความเป็นเลิศอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม นักกีฬายังคงต้องมีการพัฒนาเพิ่มขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง ทุกสมาคม โดยจะต้องนำประสบการณ์จากการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้ ไปปรับปรุงแก้ไข และถอดบทเรียนเพื่อสร้างผลงานให้ดียิ่งขึ้น ในรายการแข่งขันอื่น ๆ ต่อไป
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ยังได้ฝากขอให้สมาคมกีฬามุ่งใช้ “วิทยาศาสตร์การกีฬา” ที่มีมาตรฐานสากล อย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยยกระดับผลงานของนักกีฬาทุกประเภทให้ดียิ่ง ๆ ขึ้น รวมถึงมาตรการป้องกันการใช้ “สารต้องห้าม” จะต้องมีการควบคุมอย่างเข้มงวด และเด็ดขาดด้วยเช่นกัน
จากนั้น คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ได้จัดขบวนแห่ฉลองชัยนักกีฬาที่ได้รับเหรียญรางวัล ไปตามเส้นทางสำคัญต่าง ๆ เพื่อเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งตลอดเส้นทางขบวนแห่ฉลองชัย มีประชาชนร่วมแสดงความยินดี และเฉลิมฉลองความสำเร็จของทัพนักกีฬาไทยอย่างยิ่งใหญ่
