ห้องข่าวภาคเที่ยง - เรื่องที่นักศึกษาหนุ่มมหาวิทยาลัยชื่อดังในจังหวัดนนทบุรี ถูกรุ่นพี่รับน้องหนักจนทนไม่ไหว พ่อต้องมาพาลาออก แต่กลับถูกรุ่นพี่บุกกระทืบทั้งพ่อ-ลูก ต่อหน้าอาจารย์
มีคลิปเสียงการท้าทายกันไปมาระหว่างทั้งสองฝ่าย ชี้ให้เห็นได้อย่างหนึ่งว่า ไม่ว่าก่อนจะเกิดเหตุทำร้ายร่างกายอย่างไร แต่สุดท้ายก็มีการท้าทายกันเกิดขึ้นระหว่างทั้ง 2 ฝ่าย ก่อนจะตามมาด้วยเหตุทำร้ายร่างกาย
ซึ่งถ้าให้สรุปข้อเท็จจริงคือ มีการรับน้องเกิดขึ้นจริง มีการท้าทายกันเกิดขึ้น เกิดการเผชิญหน้าและปะทะคารมกัน และลงมือทำร้ายร่างกาย มีอาจารย์เข้าไปเห็นเหตุการณ์จริง
ล่าสุด อาจารย์กฤษณะ จิรสารสวัสดิ์ รองคณบดีกิจการนักศึกษา คณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ แถลงขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมยืนยันว่า ทางมหาวิทยาลัยมีกฎระเบียบประกาศห้ามรับน้อง หรือทำกิจกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งมีการกำหนดบทลงโทษไว้แล้ว ซึ่งกิจกรรมรับน้องที่เกิดขึ้น เกิดนอกเวลาเรียนและนอกมหาวิทยาลัย ทำให้ทางมหาวิทยาลัยไม่เคยรับรู้ว่ามีการรับน้องเกิดขึ้น แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วมหาวิทยาลัยก็มีการตรววจสอบข้อเท็จจริงโดยเร็วที่สุด และมีบทลงโทษกับนักศึกษาที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบพิสูจน์ทราบตัวบุคคลว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้าง แต่โทษสูงสุดคือไล่ออก
ทั้งนี้จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด เหตุการณ์รุมทำร้ายภายในมหาวิทยาลัย เบื้องต้นพบว่ามีกลุ่มทำร้ายมี 6 คน ทั้งกลุ่มเพื่อนและรุ่นพี่ และขณะเกิดเหตุมีอาจารย์ที่ปรึกษา 2 คนเห็นเหตุการณ์ และพยายามเข้าไปห้ามปรามแล้ว แต่เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเร็วและชุลมุน ทำได้เพียงตะโกนขอความช่วยเหลือและประสานเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยปิดประตูทางเข้าออกมหาวิทยาลัย และเมื่อมีคนเข้ามาช่วย กลุ่มทำร้ายก็รีบหลบหนีไป โดยควบคุมตัวไว้ได้เพียง 2 คน ตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง
ขณะที่ นางสาวศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ระบุว่า เรื่องนี้ต้องมีคนรับผิดชอบ เพราะเป็นเรื่องร้ายแรงมาก ตนรับไม่ได้ ที่ผ่านมาเคยมีการสั่งการให้แต่ละสถาบันกวดขัน ดูแลเรื่องการรับน้องให้เหมาะสม ไม่ให้เกิดความรุนแรง แต่ก็ยังมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก ดังนั้น ต้องมีคนรับผิดชอบ
เบื้องต้นได้สั่งการให้ นางสาวสุชาดา แทนทรัพย์ เลขานุการรัฐมนตรีฯ พร้อมด้วยรองปลัดกระทรวง อว. ลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ พร้อมเรียกประชุมโดยด่วนกับอธิการบดี และผู้บริหารของสถาบัน รวมถึงทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และขอยืนยันว่าจะหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้ ขณะเดียวกันก็จะหาทางเยียวยานักศึกษาและครอบครัวที่ถูกทำร้าย
