สู้ถึงชั้นฎีกา ด.ต. เรียกรับไม่ดำเนินคดีค้ากามในอาบอบนวด

View icon 86
วันที่ 15 ส.ค. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ดาบตำรวจเรียกรับ ไม่ดำเนินคดีค้าประเวณีในอาบอบนวด คดีนี้ศาลชั้นต้นลงจำคุก 165 ปี จำเลยอุทธรณ์ศาลลงโทษ 19 กระทง คุก 95 ปี ป.ป.ท.-อัยการ เห็นควรฎีกาความผิดอีก 14 กระทง

วันนี้ (15 ส.ค.67) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เปิดเผยถึงคดีดาบตำรวจ ก. ขณะเกิดเหตุ ดำรงตำแหน่งผู้บังคับหมู่ สถานีตำรวจท่องเที่ยว 2 กองกำกับการ 1 สังกัดกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ถูกกล่าวหา ว่ากระทำทุจริตในภาครัฐ โดยมีหน้าที่จับกุมปราบปราม แต่ได้เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินจากผู้แทนของเจ้าของสถานบริการอาบอบนวด เพื่องดเว้นไม่กระทำการสืบสวนจับกุมการกระทำความผิดอาญาอันเกี่ยวกับการค้าประเวณีและความผิดอื่นๆ ที่ได้เกิดในสถานบริการอาบอบนวด

คดีนี้คณะกรรมการ ป.ป.ท. คราวประชุมครั้งที่ 29/2563 มีมติเป็นเอกฉันท์วินิจฉัยชี้มูลความผิดของดาบตำรวจ ก. ต่อมาพนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องผู้ถูกกล่าวหา เป็นจำเลยต่อศาลอาญาคดีอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง จากนั้นวันที่ 20 ต.ค.65 ศาลอาญาคดีทุจริตฯ พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป ฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น และฐานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต เป็นการกระทำอันเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่น ซึ่งเป็นกฎหมายที่มีโทษหนักสุด ลงโทษจำคุกจำเลยกระทงละ 5 ปี รวม 33 กระทง จำคุก 165 ปี แต่เมื่อรวมโทษจำคุกทุกกระทงแล้ว ให้จำคุก 50 ปีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 (3)

พนักงานอัยการพิจารณาแล้ว มีความเห็นว่า ศาลพิพากษาจำเลยมีความผิดตามฟ้องโจทก์ครบถ้วนแล้ว เห็นควรไม่อุทธรณ์ คณะกรรมการ ป.ป.ท. ในการประชุมครั้งที่ 2/2566 วันที่ 10 ม.ค.66 มีมติเห็นชอบไม่อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ส่วนจำเลยได้อุทธรณ์คำพิพากษา ต่อมา เมื่อวันที่ 11 มี.ค.67 ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พิพากษาแก้เป็น จำเลยกระทำความผิด 19 กระทง จำคุกกระทงละ 5 ปี รวมจำคุก 95 ปี คงจำคุก 50 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(3) นอกจากที่แก้ไขให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

คณะกรรมการ ป.ป.ท. ได้พิจารณาเรื่องดังกล่าวในการประชุมครั้งที่ 42/2567 เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2567 มีมติเป็นเอกฉันท์ ดังนี้ ประเด็นความผิดตามฟ้องรวม 19 กระทง เห็นชอบไม่ฎีกาคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ตามความเห็นของพนักงานอัยการ เนื่องจากศาลอุทธรณ์ยังคงพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ลงโทษจำเลยตามฟ้อง โดยไม่รอการลงโทษแก่จำเลย ส่วนประเด็นความผิดตามฟ้องรวม 14 กระทง เห็นพ้องกับความเห็นของพนักงานอัยการ และเห็นควรฎีกาในประเด็นดังกล่าวต่อไป