องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคเอ็มพ็อกซ์ (Mpox) หรือ ฝีดาษลิง เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขที่น่ากังวลระดับนานาชาติ เมื่อวานนี้ ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 ภายใน 2 ปี ที่มีการประกาศให้โรคดังกล่าวเป็นภาวะฉุกเฉินระดับโลก
โดยการประกาศดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญอิสระ ได้หารือผ่านทางออนไลน์ร่วมกับ นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคเอ็มพ็อกซ์ ที่กำลังรุนแรงในสาธารณรัฐคองโกในขณะนี้ และอาจแพร่ระบาดไปทั่วทั้งทวีปแอฟริกา ซึ่งนับเป็นเรื่องน่าวิตกอย่างยิ่ง จึงเสนอให้ นายกีบรีเยซุส ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าว
ซึ่งการประกาศขององค์การอนามัยโลก จะทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของ ดับเบิลยูเอชโอ สามารถเร่งศึกษาวิจัย, ระดมทุน และจัดเตรียมมาตรการรับมือกับโรคเอ็มพ็อกซ์ ร่วมกับนานาชาติ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรค
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีการพบผู้ติดเชื้อโรคเอ็มพ็อกซ์ แล้วกว่า 17,000 คน ในจำนวนนี้ 14,000 คน พบที่สาธารณรัฐคองโก ซึ่งมีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 500 คน ในพื้นที่ 13 ประเทศในแอฟริกา
องค์การอนามัยโลก ประกาศเปลี่ยนชื่อโรคฝีดาษลิง (monkeypox) เป็น mpox การใช้ชื่อ เอ็มพอกซ์ Mpox แทนชื่อ มังกีพอกซ์ Monkeypox หมายถึงโรคฝีดาษลิง หรือ ฝีดาษวานร เพื่อขจัดความเข้าใจผิดที่ว่าโรคดังกล่าว มีสาเหตุมาจากลิงเท่านั้น เนื่องจากไวรัสชนิดนี้พบได้ในสัตว์หลายชนิด และมักพบในสัตว์ฟันแทะเป็นส่วนใหญ่
