เช้านี้ที่หมอชิต - "ครูสาว" เข้าร้องทุกข์กองปราบฯ ขอให้ดำเนินคดีกับอดีตแฟน "จ่าทหารเรือ" หลังถูกหลอกให้รัก กู้เงินมาลงทุนให้บริการรถสองแถว แต่สุดท้ายจับได้ว่าอีกฝ่ายนอกใจ ทะเลาะเลิกกัน เงินไม่คืนไม่พอ ยังเอาปืนมาข่มขู่อีก
เรื่องการชักชวนลงทุน เกิดขึ้นหลังจากที่ครูสาวคบหากับฝ่ายชายไปได้ประมาณ 1 ปี ฝ่ายชายอ้างเหตุผลอยากสร้างครอบครัว เลยชวนให้ทำธุรกิจให้บริการรถสองแถว แล้วให้ครูสาวไปกู้เงินมา 800,000 บาท ก็ยอมกู้มา
แต่พอได้เงินมาแล้วกลับให้โอนชื่อเจ้าของรถสองแถวเป็นชื่อแม่ของฝ่ายชาย จากนั้นก็ขอให้กู้เงินมาอีก 2 ครั้ง จำนวน 350,000 บาท แล้วฝ่ายชายเอาไปซื้อโทรศัพท์มือถือ และยังนำทองที่มีอยู่ไปจำนำ ฝ่ายชายไม่ยอมจ่ายดอกเบี้ย ทำให้ทองดังกล่าวหลุดไป รวม ๆ ความเสียหายไม่ต่ำกว่า 1.3 ล้านบาท
ครูสาวยังบอกด้วยว่า ตลอด 2 ปีที่คบกัน ฝ่ายชายได้นอกใจไปมีหญิงอื่น เมื่อตนเองจับได้ก็ขอเลิกและขอเงินคืน แต่ฝ่ายชายไม่ยอม กลับไล่ตนออกจากบ้าน แถมยังนำปืนลูกซองมาจ่อศีรษะ ขู่ให้ไป ท้าให้ไปแจ้งความด้วย อ้างว่าตนเองไม่กลัวเพราะรู้จักคนใหญ่คนโต
ตนเองเคยไปแจ้งความที่ สน.ราษฎร์บูรณะ เพราะฝ่ายชายโทรฯ มาถามว่า ยังพักอยู่ที่เดิมหรือไม่ จนทำให้กลัวว่าจะไม่ปลอดภัย แต่แจ้งความไปแล้วคดีก็ไม่คืบหน้า ตำรวจเพียงลงบันทึกประจำวันไว้อย่างเดียว
จึงอยากขอให้กองทัพเรือ ต้นสังกัดของอดีตแฟนช่วยเมตตา ประสานอีกฝ่ายมาไกล่เกลี่ยคืนเงิน เพราะทุกวันนี้ต้องไปกู้เงินสหกรณ์ฯ มาประทังชีวิต และถูกหักหนี้สหกรณ์เดือนละ 16,000-17,000 บาททุกเดือน
เบื้องต้นมีตัวแทนตำรวจรับเรื่องร้องทุกข์ดังกล่าว ส่งให้ผู้บังคับบัญชาสั่งการต่อไปแล้ว
