เช้านี้ที่หมอชิต - นายอัจฉริยะ นำหลักฐานเข้าร้องเรียนเอาผิด "อธิบดีกรมสรรพากร" และ ผู้บังคับการ ตำรวจ ปอศ. กับพวก ที่ปฏิบัติหน้าที่คดีน้ำมันเถื่อนโดยไม่ชอบ
นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมนำหลักฐาน เข้าแจ้งความให้ตำรวจ บก.ปปป. ดำเนินคดี เอาผิด "อธิบดีกรมสรรพากร" เหตุไม่ไปร้องทุกข์ดำเนินคดีกับ "โกฟุก" หรือ นายสง่า กังวาล หลีกเลี่ยงภาษีน้ำมัน 1.8 หมื่นล้านบาท ตาม พ.ร.บ.ประมวลรัษฎากร ถือว่าเป็นการละเว้นในการปฏิบัติหน้าที่
ทั้งที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ประสานให้เข้าแจ้งความแล้ว แต่ "อธิบดีกรมสรรพากร" กลับเพิกเฉย โดยตั้งข้อสังเกตว่า หรือ เพราะมีเจ้าหน้าที่ของกรมฯ ไปเกี่ยวข้องกับเครือข่ายนี้
นอกจากนี้ นายอัจฉริยะ ยังแจ้งเอาผิดผู้บังคับการ ปอศ. และผู้กำกับการ 2 บก.ปอศ. เรียกรับผลประโยชน์กับขบวนการฟอกเงินข้ามชาติ ขายใบกำกับภาษีปลอม และเรื่องที่ไม่ส่งตัวผู้ต้องหาในคดีเรือน้ำมันเถื่อน ให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองนำไปกักขัง แต่กลับให้ไปเฝ้าเรือ ถือว่าเข้าข่ายเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
เรื่องนี้ทีมข่าวโทรสอบถาม "ผู้กำกับการ 2 บก.ปอศ" ที่ถูกกล่าวหา ชี้แจงว่า เหตุที่ไม่ส่งตัวผู้ต้องหาแรงงานประเทศเพื่อนบ้านไปกักตัว เพราะถูกจับกุมจากพื้นที่นอกราชอาณาจักร จึงไม่เข้าเงื่อนไขความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง
ส่วน คดีโกฟุก ทาง DSI ระบุตามหลักแล้ว เรื่องภาษีน้ำมัน กรมสรรพากร จะต้องเป็นผู้มาร้องทุกข์ในฐานะผู้เสียหาย คาดว่าน่าอยู่ระหว่างการประสานงานกัน
ด้าน ความคืบหน้าคดีเรือน้ำมันเถื่อนทั้ง 5 ลำ นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า เตรียมส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณาส่งสำนวนฟ้องต่อศาลได้หรือไม่ ภายในวันที่ 16 สิงหาคมนี้ เนื่องจากเป็นพื้นที่นอกราชอาณาจักร
ส่วนการออกหมายจับสากล นายสหชัย หรือ โจ้ ปัตตานี กรณีลักเรือของกลาง 3 ลำ ตำรวจกองปราบ อยู่ระหว่างนำฐานส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดพิจารณา
