เชื่อใครดีนักร้อง อ้างถูกเจ้าของร้านเหล้าขืนใจ

View icon 147
วันที่ 8 ส.ค. 2567
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - คดีที่เมื่อวานมีนักร้องสาว อ้างว่าถูกผัวเมียเจ้าของร้านเหล้า ขืนใจ ทำร้ายร่างกาย และกักขังหน่วงเหนี่ยว ต่อมาผู้ถูกกล่าวหาหอบหลักฐานโต้ บอกว่าเป็นการสมยอม นักร้องสาวเป็นฝ่ายเริ่มก่อน

เชื่อใครดีนักร้อง อ้างถูกเจ้าของร้านเหล้าขืนใจ
เริ่มเรื่องคือ แฟนนักร้องสาวไปร้องทุกข์กับเพจฯ ดัง ว่าแฟนสาวซึ่งเป็นนักร้อง อ้างถูกผัวเมียเจ้าของร้านเหล้ารุมทำร้ายร่างกาย จนดวงตาบวมปูด ดั้งหัก มีรอยช้ำเขียวทั่วใบหน้า

ต่อมานักร้องสาว ไปแจ้งความกับตำรวจ อีกฝ่ายรู้ว่าก็รีบไปพบตำรวจให้ปากคำ ประเด็นคือฝ่ายหญิงกล่าวหา ว่าทั้ง 2 คน ลวงไปดื่มสุราปรับทุกข์ ก่อนจะถูกผัวพยายามจะขืนใจ แต่ขัดขืนจึงถูกรุมทำร้าย ก่อนจะหนีออกมาได้

ส่วนฝ่ายเจ้าของร้านเหล้า งัดคลิปหลักฐาน 3 คลิป ออกมาให้ดูเป็นภาพทั้ง 2 ฝ่าย หลับนอนด้วยความสมัครใจ แต่ภาพนี้ไม่สามารถนำมาเผยแพร่ได้ ไม่มีร่องรอยการบังคับขืนใจ หรือไม่มีบาดแผล

ล่าสุด เพจฯ ดัง โพสต์ข้อมูลฝ่ายเจ้าของร้านเหล้า ระบุว่าความจริงคือ ผมไม่ได้ข่มขืน และไม่ได้ทำร้ายอะไรน้องผู้หญิง แล้วก็เท่าที่สอบถามน้อง ๆ ในบ้าน ก็ไม่มีใครไปทำร้ายน้องผู้หญิงเหมือนกัน

สอบถามจาก รปภ ทางออกหน้าหมู่บ้าน ว่าก่อนเค้าขึ้นรถใบหน้าเค้าเป็นยังไง มีบาดแผลหรือไม่ รปภ. ยืนยันทั้ง 2 คน ว่าไม่ได้เป็นอะไรเลย ปกติทุกอย่าง

แล้วเรื่องนี้จะจบอย่างไร ทางตำรวจบอกว่า ได้สอบทั้ง 2 ฝ่ายไปแล้ว ฝ่ายหญิงกล่าวหา 3 ข้อหา คือ ทำร้ายร่างกาย ข่มขืน และกักขังหน่วงเหนี่ยว เมื่อมีการกล่าวหา ก็ต้องพิสูจน์ยืนยันคำกล่าวหา ว่าเป็นจริงหรือไม่ อย่างแรกคือฝ่ายหญิงไปตรวจร่างกาย เพื่อพิสูจน์ว่า บาดแผลที่เกิดขึ้นเป็นการถูกทำร้ายร่างกายหรือไม่ เกิดขึ้นช่วงเวลาใด และถูกอะไรกระทำ ตอนนี้รอผลแพทย์

ส่วนประเด็นข่มขืน หรือกักขังหน่วงเหนี่ยว จะเรียกพนักงานร้านที่อยู่ในเหตุการณ์ 6-7 คน รวมทั้ง รปภ.หมู่บ้าน มาสอบปากคำ หากมีวงจรปิดก็ต้องขอมาตรวจสอบ ว่ามีการบังคับ ขืนใจ และทำร้ายร่างกายจริงตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ มีใครเห็นบ้าง ก่อนจะรวบรวมหลักฐานทั้งหมดส่งให้อัยการและศาลฯ พิจารณาต่อไป

ทนาย ชี้ต้องให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย
ด้านนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ ให้ความเห็นเรื่องนี้ว่า หากเจ้าของบ้านคู่กรณี มีภาพจากกล้องวงจรปิด ที่สามารถเห็นพฤติกรรมตั้งแต่หน้าบ้าน และมีความบริสุทธิ์ใจจริง ก็สามารถเอาผิดคู่กรณีได้ ในข้อหาแจ้งความเท็จ กลั่นแกล้งให้ผู้อื่น มีโทษทางอาญา จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท ซึ่งถือเป็นโทษหนัก

โดยส่วนตัวมองว่า เรื่องนี้จะต้องดูว่า ผู้เสียหาย มีบาดแผลในร่างกายจากวันที่เกิดเหตุจริงหรือไม่ เพราะหากมีบาดแผล เชื่อว่าศาลจะเชื่อว่าถูกกระทำจริง แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งต้องดูบาดแผลของฝ่ายตรงข้ามด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง