รวบเจมส์ บางบอน หลังสะกดรอยตามตำรวจระดับสารวัตร จนรู้ที่ซ่อนคีย์การ์ดคอนโด

View icon 124
วันที่ 4 ส.ค. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม  2567  เวลา 16.15 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ร่วมกันจับกุม เจมส์-บางบอนด์ อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ในข้อหา “ลักทรัพย์ของผู้อื่นในเวลากลางคืนในเคหะสถาน และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ

โดยสามารถ จับกุมตัวได้ที่ ริมป่าข้างคลอง แนวรอยต่อระหว่าง จ.ฉะเชิงเทรา-สมุทรปราการ ต.หอมศีล อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา

สำหรับเจมส์ บางบอน พบประวัติเคยก่อคดีอาญา 4 คดีดังนี้

1.วันที่ 9 ส.ค. 62 ถูกจับกุมข้อหา “มียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองฯ” พื้นที่ สน.หลักสอง
2.วันที่ 8 ธ.ค. 66 ก่อเหตุ “ลักทรัพย์ฯ” ขโมยซองผ้าป่า พื้นที่ สน.ท่าข้าม
3.วันที่ 23 พ.ค. 67 ก่อเหตุ “ลักทรัพย์ฯ” ขโมยนาฬิกาในห้างสรรพสินค้า พื้นที่ สน.ภาษีเจริญ
4.วันที่ 17 , 19 , 20 , 21 , 22 , 24 , 26 , 27 มิ.ย. 67 (8 วัน) ก่อเหตุ “ลักทรัพย์ของผู้อื่นในเวลากลางคืนในเคหะสถานฯ” ซุ่มดูเหยื่อก่อนแอบขโมยคีย์การ์ดขึ้นไปลักของบนห้องพัก พื้นที่ สน.เพชรเกษม (คดีนี้)

พฤติการณ์ของเจมส์ บางบอน คือ ได้วางแผน สะกดรอยตาม นายตำรวจระดับ “สารวัตร” สังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยสะกดรอยตามมาเป็นเวลานานกว่า 10 วัน และเจมส์บางบอน แอบเข้าไปรื้อค้นในห้องพักของตำรวจ ผู้เสียหายมากกว่า 8 ครั้ง

จนกระทั้ง เมื่อคืนวันที่ 27 มิ.ย. 67 เวลาประมาณ 21.00 น. นายตำรวจ ผู้เสียหาย ได้กลับเข้ามาที่คอนโดชื่อดัง ย่านบางแค แล้วพบว่า ข้าวของบางอย่างถูกขยับเขยื้อน และเมื่อตรวจสอบในห้อง โดยละเอียดทำให้ทราบว่า มีสิ่งของบางอย่างหายไป หลังจากนั้นจึงสืบหาเบื้องต้น จนทราบว่า คนร้ายเป็นชายวัยรุ่น “บุกเดี่ยว” เข้ามาในคอนโดของตนเองกว่า 5 นาที ก่อนหลบหนีออกไป

หลังทราบเรื่อง นายตำรวจผู้เสียหาย จึงเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดี ในช่วงแรกคล้ายกับเป็นคดีลักทรัพย์ทั่วไป แต่สิ่งที่ทำให้นายตำรวจสงสัย คือ “คนร้ายขึ้นคอนโดไปได้อย่างไร” ทั้งที่ภายในคอนโด มีระบบความปลอดภัยที่หนาแน่น

ชุดสืบสวนจึงเริ่มสืบสวนโดยละเอียด ไล่ทามไลน์ย้อนหลังไปจนทราบว่า นายตำรวจ ผู้เสียหาย ได้ถูกคนร้ายสะกดรอยเฝ้าดูพฤติกรรม มาเป็นเวลากว่า 10 วันแล้ว และยิ่งไปกว่านั้น คนร้ายยังแอบย่องเข้าไปในคอนโด ของนายตำรวจผู้เสียหายมาแล้วกว่า 7 ครั้ง ก่อนที่จะลงมือก่อเหตุในครั้งที่ 8

คนร้ายสะกดรอย นายตำรวจ ผู้เสียหาย จนทราบที่เก็บ “คีย์การ์ดสำรอง” ว่าผู้เสียหาย เก็บไว้ใน Mail Box (ช่องตู้ไปร์ษณีย์) ที่อยู่ชั้นล่างของอาคารคอนโด และคนร้ายใช้จังหวะเมื่อนายตำรวจผู้เสียหายเดินทางออกไปทำงานหรือไม่อยู่ที่ห้องพัก แอบไปหยิบคีย์การ์ดสำรองดังกล่าวทำให้สามารถขึ้นตึกและเข้าไปสอดแนมภายในห้องพักได้ แล้วเมื่อเสร็จภารกิจลับก็จะนำคีย์การ์ดนั้นมาเก็บไว้ที่เดิม เสมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น

นอกจากนั้น สิ่งที่น่าสงสัย คือ ทำไมคนร้ายถึงรู้ว่าห้องพักของนายตำรวจผู้เสียหายนั้น อยู่ที่ชั้นไหนของคอนโด อีกทั้ง คนร้ายไม่ได้ขโมยทรัพย์สิน พี่มีมูลค่าสูงภายในห้องพัก จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าคนร้ายไม่ได้ประสงค์ต่อทรัพย์แต่อาจจะมีเจตนาแอบแฝงมากไปกว่านั้น

หลังชุดสืบสวน บก.สส.บช.น. และ กก.สส.บก.น. 9 ร่วมกันเร่งสืบสวนใช้เวลากว่า 1 เดือน ทำการสืบสวนติดตามคนร้ายรายนี้ เพราะพฤติกรรมสุดคล้ายเลียนแบบมาจากภาพยนตร์ กระทั่งได้สืบสวนจนทราบตัวคนร้าย และได้มีการออกหมายจับ ซึ่งก็คือ นายมนัสวิน หรือ “เจมส์-บางบอนด์”

โดยพล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. สั่งทีมไล่ล่าติดตามจับกุมตัวคนร้าย โดยการสืบสวนติดตามพบว่า หลังจากก่อเหตุในวันสุดท้าย (27 มิ.ย. 67) คนร้ายได้หายตัวไป เป็นคนไร้ตัวตน ซึ่งต่อมาได้สืบทราบว่าคนร้ายร่อนเร่พเนจรไปนอนตามป้ายรถเมล์ ปั้มน้ำมัน ซึ่งชุดสืบสวนติดตามจนคนร้ายไปจนมุมที่ ริมป่าข้างคลอง แนวรอยต่อระหว่าง จ.ฉะเชิงเทรา-สมุทรปราการ ต.หอมศีล อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา

ในชั้นจับกุม นายมนัสวิน หรือ “เจมส์-บางบอนด์” ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองจบการศึกษาชั้น ม.6 และต่อ ปวช.สายช่างก่อสร้าง แต่เรียนไม่จบ ในปัจจุบันเป็นคนตกงาน และไม่เป็นที่ยอมรับของครอบครัว จึงชอบร่อนเร่ไปพักอาศัยตามที่ต่างๆไปเรื่อย

ส่วนทางคดีตนเองไม่ได้หวังปองร้าย ไม่ได้รับงานใครมา ตนเองแค่มานั่งสังเกตการณ์บริเวณใต้อาคารคอนโดที่เกิดเหตุบ่อยๆ แล้วเห็นว่าห้องของนายตำรวจผู้เสียหาย มักซ่อนกุญแจและคีย์การ์ดสำรองไว้ในช่อง Mail Box ตนเองเป็นคนตกงานและทางบ้านของภรรยาไม่ค่อยยอมรับ จึงตั้งใจจะขึ้นไปนอนบนห้องของผู้เสียหาย ขณะที่เขาไม่อยู่เท่านั้น ไม่ได้คิดจะสอดแนมหรือปองร้ายใดๆทั้งสิ้น ส่วนที่มาถูกจับกุมที่นี่ไม่ได้หลบหนีมา แต่ได้งานทำใหม่ที่นี่ ส่วนที่ไม่ได้อยู่ละแวกบางบอนเช่นเดิมนั้นเพราะหลังก่อเหตุตนเองมีความรู้สึกว่าเหยื่อน่าจะรู้ตัว และมีเจ้าหน้าที่บางส่วนมาติดตาม จึงออกร่อนเร่เดินเท้าไปอย่างไร้จุดหมายและมาถูกจับกุม”

หลังจับกุมขยายผลได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.เพชรเกษม ดำเนินคดีต่อไป