ชนแล้วหนี! คู่กรณีเสี่ยงตาย เกาะหน้ารถตามเกือบ 100 ม.

View icon 97
วันที่ 25 ก.ค. 2567
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - รถยนต์ 2 คัน เกิดเฉี่ยวชนกันบนท้องถนน คู่กรณีคันที่ขับชน ขับรถหนีสุดชีวิต ทำให้หญิงเจ้าของรถคันที่ถูกชนกระโดดเกาะหน้ารถติดไปด้วย ฝ่ายคู่กรณีก็ไม่ยอมจอด ขับหนีไปทั้งที่มีคนอยู่หน้ารถ

ในคลิปจะเห็นได้ว่าผู้หญิงสวมเสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน เกาะอยู่หน้ารถยนต์ จากนั้นได้มีพลเมืองดีขี่รถจักรยานยนต์มาเรียกให้รถคันนั้นจอด แต่รถคันดังกล่าวก็ไม่ยอมจอด ขับหนีไปเรื่อย ๆ โดยที่มีผู้หญิงเกาะหน้ารถอยู่ หลังขับมาได้ประมาณเกือบ 100 เมตร รถคันดังกล่าวได้จอด 

จากนั้นได้มีผู้หญิงสวมเสื้อสีฟ้า ที่เป็นคนขับรถยนต์คันดังกล่าว ลงมาต่อว่าผู้หญิงที่เกาะอยู่หน้ารถ ประมาณว่า "มาเกาะรถทำไม รถตนเองไม่ได้เป็นฝ่ายเฉี่ยวชน" จากนั้นหญิงคนที่สวมเสื้อฟ้าได้ขึ้นรถ และขับรถหนีไปต่อ ทำให้หญิงสาวคู่กรณีกระโดดเกาะหน้ารถไปเหมือนเดิม

จากนั้นรถคันก่อเหตุได้ไปติดไฟแดง โดยมีรถกระบะขวางอยู่ด้านหน้า คู่กรณีจึงลงมาจากฝากระโปรงรถ แต่ยังยืนขวางหน้ารถอยู่ เป็นจังหวะเดียวกับรถคันที่เห็นหักขวาเพื่อจะหนีต่อ ทำให้กระตุกรถชนกับคู่กรณีเข้าเต็ม ๆ จนกระจกรถหักลงมา จากนั้นรถคนก่อเหตุได้หลบหนีไปได้

ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับ นายกิตติศักดิ์ จันทร์ศรี หรือ บอส อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นคนถ่ายคลิปวิดีโอ เล่าให้ฟังว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ช่วงเวลาประมาณ 09.30 น. ซึ่งตอนนั้นตนได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งอาหารให้กับลูกค้า เมื่อมาถึงแยกวชิระ ถนนสุโขทัย แขวงและเขตดุสิต กรุงเทพฯ ก็พบกับหญิงสาวขับรถยนต์สีขาว มีปากเสียงกับผู้หญิงอายุราว 50 ปี สวมเสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน ตะโกนว่าผู้หญิงคนดังกล่าวขับรถชนแล้วหนี ก่อนที่จะกระโดดเกาะหน้ารถ

จากนั้นหญิงคู่กรณีก็ได้เดินย้อนกลับไปขึ้นรถ และขับรถลากคู่กรณีไป ซึ่งขณะนั้นตนได้พยายามพูดเกลี้ยกล่อมให้หยุด แต่ก็ไม่เป็นผล ตนจึงขี่รถจักรยานยนต์ตามไป โดยผู้หญิงคนดังกล่าวได้ขับรถฝ่าไฟแดง 2 แยก จนเกือบจะถูกรถคันอื่นชน และยังได้มีการเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์อีก 1 คัน ซึ่งในระหว่างทางที่ขี่รถจักรยานยนต์ตามไปนั้นตนก็พยายามตะโกนให้ผู้หญิงคนดังกล่าวหยุดรถ จนกระทั่งขับมาถึงบริเวณสะพานกรุงธนบุรี ก็ได้มีรถกระบะขับมาปาดหน้ารถยนต์คันดังกล่าว จึงทำให้หญิงคนดังกล่าวยอมหยุดรถ แต่ตนก็ไม่ทราบว่าหลังจากนั้นมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง

ขณะที่ พันตำรวจตรี พีรวิชญ์ จันทร์โรจนธาดา สารวัตรสอบสวน สน.ดุสิต ซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ให้ข้อมูลว่า ผู้เสียหายได้มาแจ้งความไว้เมื่อวานนี้ มีร่องรอยฟกช้ำ บาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนคู่กรณีพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบชื่อผู้ครอบครองแล้วทราบว่าเป็นชายไทย มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี และพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกมาให้ข้อมูลตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว แต่จนขนาดนี้ก็ยังไม่มาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก ส่วนผู้เสียหายได้มีการแจ้งกับพนักงานสอบสวนไว้ว่า ไม่สะดวกที่จะให้สัมภาษณ์ หรือ ให้ข้อมูลใด ๆ กับสื่อมวลชน

ต่อมา คุณเปิ้ล อายุ 56 ปี ผู้เสียหาย ได้เดินทางมาให้ปากคำกับตำรวจที่ สน.ดุสิต ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตนขับรถกระบะ ยี่ห้อนิสสัน นาวาร่า พอถึงหน้าโรงพยาบาลวชิระ ตนได้จอดรถติดไฟแดงทางม้าลาย เพื่อรอให้คนข้ามถนน จู่ ๆ มีคู่กรณีเปลี่ยนเลนมาชนด้านท้ายรถ ตนจึงลดกระจกลง เพื่อจะพูดคุย แต่ว่าคู่กรณีตะโกนโวยวาย ตนจึงลงจากรถไปเจรจา แต่คู่กรณีไม่ยอมหยุดรถ ตนจึงขับรถตามไปทันบริเวณแยกอู่ทองใน และได้ไปเคาะกระจกเรียกให้ทางคู่กรณีจอดรถแล้วลงมาคุยกัน แต่คู่กรณีไม่ยอมคุย ตนจึงไปยืนที่หน้ารถ แล้วพยายามเรียกคนช่วย แต่คู่กรณีไม่ยอมลงมา แถมยังขับรถเดินหน้าอีก ทำให้ตนกระโดดเกาะฝาโปรงหน้ารถ เพราะกลัวว่าคู่กรณีจะหลบหนี ตอนนั้นตนคิดอะไรไม่ออก ทำได้แต่เพียงว่าอยากให้คู่กรณีหลบหนีไปได้ 

เนื่องจากรถตนเองมีประกันชั้น 2+ เท่านั้น หากเกิดอุบัติเหตุต้องมีคู่กรณี ถ้าไม่มีจะต้องซ่อมรถเอง แต่ที่ต้องยอมลง เพราะขนาดติดไฟแดง และมีรถยนต์กระบะมาจอดขวางอยู่ คู่กรณียังขับรถฝ่าไปได้ตนจึงต้องยอมกระโดดลงจากหน้ารถเพื่อรักษาชีวิตไว้ก่อน ตนโชคดีที่ไม่บาดเจ็บอะไรมาก มีรอยช้ำที่หัวเข่าสองข้าง และเจ็บซี่โครง แต่ไปเอกซเรย์แล้วหมอบอกไม่เป็นอะไรมาก