หมอมนูญ ยกเคสผู้ป่วยอายุ 24 ปี ชาครึ่งตัว เดินลำบากเพราะดมก๊าซหัวเราะ ใช้มากขึ้นในช่วง 6 เดือน เดือนสุดท้ายก่อนมีอาการ เสียเงินซื้อไปกว่าแสนบาท ย้ำเตือนความสุขชั่วครู่ ไม่คุ้มค่ากับความเจ็บป่วยพิการตลอดชีวิต
วันนี้ (25 ก.ค.67) นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เชี่ยวชาญด้านระบบการหายใจและผู้ป่วยหนัก ยกเคสผู้ป่วยชาย อายุ 24 ปี มาพบแพทย์ หลังเริ่มมีอาการแขนชาทั้ง 2 ข้าง ตั้งแต่เหนือข้อศอกลงไปถึงปลายนิ้วมือ และขาชาทั้ง 2 ข้าง ตั้งแต่เหนือหัวเข่าลงไปถึงปลายเท้า เดินลำบากเนื่องจากการทรงตัวไม่ดี ต้องถือไม้เท้าเป็นเวลา 3 เดือน มือแขนและขายังไม่อ่อนแรง
ผู้ป่วยให้ประวัติว่าเริ่มสูดดมก๊าซหัวเราะ 1 ปี และใช้มากขึ้น 6 เดือนที่ผ่านมา เดือนที่แล้วใช้ถึงวันละ 400 หลอดโลหะก๊าซหัวเราะ ภายใน 1 เดือน และในเดือนสุดท้ายต้องเสียเงินซื้อหลอดโลหะก๊าซหัวเราะมากกว่า 1 แสนบาท
เคสนี้หมอให้การรักษา โดยแนะนำให้หยุดใช้ก๊าซหัวเราะ ฉีดวิตามิน B12 วันละ 1 ครั้ง เข้ากล้ามติดต่อกัน 2 สัปดาห์ โดบให้มาฉีดแบบคนไข้นอก อาการชาลดลงเหลือแค่ชาปลายมือปลายเท้า การทรงตัวดีขึ้น กลับมาเดินได้ปกติ ลดฉีดวิตามิน B12 เหลือสัปดาห์ละครั้ง และติดตามอาการต่อไป
ความผิดปกติทางระบบประสาทเกิดจากก๊าซหัวเราะหรือก๊าซไนตรัสออกไซด์ (N2O) เข้าไปในร่างกายขัดขวางการทำงานของวิตามินบี 12 ซึ่งมีส่วนสำคัญในการสร้างสารไมอีลิน เนื้อเยื่อไขมัน ที่ทำหน้าที่เป็นปลอกประสาท ทำให้เกิดภาวะไขสันหลังเสื่อม (Myelopathy) และปลายประสาทเสื่อมสภาพ (Peripheral neuropathy)
ผู้ป่วยรายนี้มีอาการผิดปกติทางปลายประสาทเสื่อมสภาพ มีอาการแขนขาชา และการทรงตัวไม่ดี คล้ายกับผู้ป่วยที่ขาดวิตามิน B12
หมอมนูญจึงแนะนำให้วัยรุ่นหลีกเลี่ยงการสูดดมก๊าซไนตรัสออกไซด์ พร้อมย้ำว่า ความสุขชั่วครู่ชั่วยามจากการสูดดมก๊าซหัวเราะไม่คุ้มค่ากับความเจ็บป่วยพิการตลอดชีวิต เราต้องช่วยกันสื่อสารให้สังคมรับรู้ถึงอันตรายจากผลข้างเคียงระยะยาวของก๊าซหัวเราะ ก่อนที่วัยรุ่นไทยจำนวนมากจะทุพพลภาพ พิการและช่วยตัวเองไม่ได้จากการสูดดมก๊าซหัวเราะต่อเนื่องเป็นเวลานาน สร้างภาระให้กับครอบครัวและประเทศ
