ลูกชายถูกรุมฟันกะโหลกร้าว สาหัส แจ้งความคดีไม่คืบ พ่อพาร้องสายไหมฯ ช่วยเหลือ

View icon 79
วันที่ 24 ก.ค. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
พ่อพาลูกชายวัย 20 ปี ร้องสายไหมต้องรอด ถูกกลุ่มวัยรุ่นรุมฟันกะโหลกร้าว เย็บกว่า 100 เข็ม แจ้งความคดีไม่คืบ คาดผู้ก่อเหตุเป็นลูกหลานตำรวจ ทำให้คดีล่าช้า ด้าน ผกก. สั่งเร่งรัดคดีแล้ว ยัน พบผิดฟันเด็ดขาด

วันนี้ (24 ก.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ่อพาลูกชายวัย 20 ปี มาร้องขอความเป็นธรรมจากนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกกลุ่มวัยรุ่นบุกเข้ามาทำร้ายลูกชายและเพื่อนภายในบ้านพักที่ จ.สกลนคร ทั้งที่ไม่รู้จักกันมาก่อน เบื้องต้นไปแจ้งความไว้นานกว่า 1 เดือนแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้า เชื่อว่าเป็นเพราะกลุ่มวัยรุ่นที่บุกมาทำร้ายเป็นลูกหลานของตำรวจสกลนคร

พ่อของผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 23.20 น. วันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะลูกชายกำลังนั่งกินข้าวอยู่กับกลุ่มเพื่อนรวม 5 คน ที่เพิงพักบริเวณหลังบ้าน จู่ ๆ มีกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 12 คน ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาในหมู่บ้าน จากนั้นวัยรุ่น 5 คนบุกถือมีดดาบเข้ามาไล่ฟันลูกชายและเพื่อน ทั้งที่ไม่รู้จักกันมาก่อน ซึ่งลูกชายนั่งอยู่ริมสุดทำให้ถูกฟันเข้าที่บริเวณเอว จนต้องวิ่งหนีตายเอาชีวิตรอด แต่ลูกชายโชคร้ายสะดุดล้ม ทำให้ถูกรุมฟันที่ศีรษะ ลำตัว ได้รับบาดเจ็บสาหัสมีบาดแผลทั่วร่างกาย เช่น แผ่นหลังถูกฟันรวม 5 แผล บริเวณจมูกด้านซ้ายถูกฟันจนเปิดเป็นแผลยาว 5 เซนติเมตร แต่ที่หนักสุดคือหนังศีรษะถูกฟันเป็นแผลยาว 6 เซนติเมตร จนกะโหลกร้าว แพทย์ทำการรักษาเย็บบาดแผลทั่วตัวมากกว่า 100 เข็ม รวมถึงต้องส่งตัวไปศัลยกรรมจมูกที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด เนื่องจากโรงพยาบาลแรกไม่สามารถเย็บบาดแผลที่จมูกให้ได้ รวมระยะเวลาที่ต้องพักรักษาตัวต่อเนื่องนาน 1 เดือน

โดยหลังก่อเหตุวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวได้ตะโกนถามหาคนชื่อ "เต๋อ" ซึ่งเป็นคู่อริ และไม่ใช่กลุ่มเพื่อนของลูกชาย คาดว่ากลุ่มวัยรุ่นตั้งใจมาทำร้ายคู่อริที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันกับลูกชาย แต่ไม่พบตัว แล้วมาเห็นกล่มลูกชายและเพื่อนนั่งกินข้าวกันอยู่ จึงปรี่เข้ามาทำร้าย ซึ่งหลังก่อเหตุ กลุ่มวัยรุ่นยังโพสต์ภาพอาวุธลงในโซเชียลมีเดีย อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายด้วย

ตนได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.วานรนิวาส แต่ผ่านมานานกว่า 1 เดือนแล้ว คดียังไม่มีความคืบหน้า ตำรวจเรียกกลุ่มผู้ก่อเหตุมาสอบปากคำเพียง 8 คน อ้างว่าทางกลุ่มผู้ก่อเหตุไม่ได้ซัดทอดไปยังคนอื่น ซึ่งเชื่อว่าผู้ก่อเหตุ 4 คนที่ถูกกันตัวไว้เป็นลูกหลานตำรวจ ทำให้คดีล่าช้า นอกจากนี้ ตำรวจยังโทรศัพท์มาเจรจาให้ยินยอมไกล่เกลี่ย แล้วรับเงินค่าเสียหาย 1 แสนบาทเพื่อจบเรื่อง อ้างว่ากล้องวงจรปิดเห็นภาพไม่ชัด และผู้ก่อเหตุส่วนใหญ่เป็นเยาวชน มีอายุ 19 ปีเพียงแค่ 1 คน หากขึ้นศาลเยาวชนฯ โทษก็ค่อนข้างน้อย แต่ตนยืนยันต้องการดำเนินคดีกับกลุ้มผู้ก่อเหตุจนถึงที่สุด

ด้าน นายเอกภพ เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่แย่มาก ไม่ว่าจะเป็นลูกหลานตำรวจ หรือผู้มีอิทธิพล ก็ต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย โดยหลังจากนี้ตนจะประสานไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร ให้เข้ามาตรวจสอบและเร่งรัดคดีดังกล่าว พร้อมทั้งจะพาผู้เสียหายไปยื่นขอคุ้มครองสิทธิกระทรวงยุติธรรม

ทั้งนี้ ทีมข่าวโทรศัพท์สอบถาม พ.ต.อ. พินิจ ประสิทธิ์เขตกิจ ผู้กำกับการ สภ.วานรนิวาส ระบุว่า ได้มีการสอบถามร้อยเวรเจ้าของคดีแล้ว ทราบว่าตอนนี้คดีอยู่ในขั้นตอนการเรียกตัวผู้ก่อเหตุมาแจ้งข้อกล่าวหา ยืนยันว่าทราบตัวผู้กระทำความผิดแล้ว มีทั้งผู้ใหญ่และเยาวชน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ออกหมายเรียกไปแล้วประมาณ 5 คน แต่ผู้ต้องหายังไม่มาพบ ส่วนกรณีที่ผู้เสียหายบอกว่ามีกลุ่มผู้ก่อเหตุมากกว่านี้ แต่ไม่ถูกออกหมายเรียก กลัวว่าจะเป็นอิทธิพลจากลูกตำรวจหรือไม่นั้น ผู้กำกับฯ ยืนยันว่า ไม่มีแน่นอน หากเป็นตำรวจก็คงไม่กล้าช่วยกันขนาดนี้ แต่การดำเนินคดี ต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน บางครั้งหากมีแต่กล้องวงจรปิดบางส่วน ก็ต้องหาพยานมายืนยันด้วย ซึ่งยืนยันว่า หากพบความผิด ก็ต้องดำเนินคดีทั้งหมดให้ครอบคลุม

ทั้งนี้ ยอมรับว่า ความล่าช้าอาจเกิดจากการดำเนินการของร้อยเวรเจ้าของคดี ที่ทำให้ผู้เสียหายไม่พอใจ ซึ่งตนได้ตำหนิ และกำชับไปยังหัวหน้างานสอบสวนให้เร่งดำเนินการแล้ว และจะประสานไปยังผู้เสียหายด้วย แต่ยืนยันว่า กระบวนการตอนนี้ยังอยู่ในกรอบเวลา 2 เดือนของการดำเนินคดีในอำนาจของร้อยเวร

สำหรับประเด็นที่ผู้เสียหายบอกว่า ทางตำรวจมีความพยายามขอให้ไปไกล่เกลี่ยนั้น ยังไม่ทราบประเด็นนี้ ยืนยันว่า ไม่มีใครมาพูดคุย ขอให้ประวิงเวลาในการดำเนินคดี