เอก สายเต๊าะ ไม่รอดนอนคุก รอฝากขังพรุ่งนี้

View icon 3.6K
วันที่ 20 ก.ค. 2567
เจาะประเด็นข่าว 7HD
แชร์
เจาะประเด็นข่าว 7HD - "เอก สายเต๊าะ" ไม่รอดนอนคุก รอฝากขังพรุ่งนี้ ตำรวจเตรียมสำนวนคัดค้านให้ประกันตัว ย้ำดำเนินการทุกมิติและรอบคอบที่สุด

"เอก สายเต๊าะ" นอนคุก รอฝากขังพรุ่งนี้
เป็นการปฏิบัติการตั้งแต่เช้าที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ นำหมายค้นของศาลอาญา มาตรวจค้นบ้าน นาย เอกรัตนะ ขุนพรหม หรือ เอก สายเต๊าะ ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพบหลักฐานไลฟ์สดโชว์อาวุธปืน มีด และขัดขืนการตรวจค้น แต่สุดท้ายเข้าตรวจค้นได้ พบปืนอัดลม และมีดหัวตัดอีก 1 เล่ม ที่ยอมรับว่าเป็นของตัวเองจริง ขณะเดียวกัน นายเอกได้หันไปเจอสื่อมวลชน ที่เคยมีปัญหากันมาก่อน ที่สน.ดอนเมือง ทำให้นายเอกไม่พอใจ มีท่าทีโวยวาย เจ้าหน้าที่ต้องเข้าห้ามปรามเพื่อสงบสติอารมณ์ ใช้เวลาเจรจาเกือบ 1 ชั่วโมง ก่อนเชิญตัวนายเอก มาที่สถานีตำรวจ เพื่อบันทึกการตรวจคนและจับกุม แต่นายเอก ไม่ยอม ขอตำรวจดูฤกษ์ยามงามดีที่จะมาโรงพัก ไม่ยอมขึ้นรถกระบะของเจ้าหน้าที่ จะขอขับรถไปโรงพักเอง ทั้งตำรวจและสื่อมวลชนก็ช่วยกันเกลี้ยกล่อม จนยอมขึ้นรถกระบะมากับเจ้าหน้าที่

รปภ.หมู่บ้าน ไม่ยอมความ "เอก สายเต๊าะ"
ทั้งนี้ยังมี นายสีครินทร์ คงจันทร์ พนักงานรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน มาให้ปากคำเพิ่มเติม หลังจากที่นายเอก ใช้มีดฟัน 2 ครั้ง แต่ผู้เสียหายหลบได้ ทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บ และนายเอก ยังนำทรัพย์สิน พร้อมกุญแจรถจักรยานยนต์ของตัวเองกลับไปด้วย โดยจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ตำรวจค้านประกันตัว "เอก สายเต๊าะ"
และจากการสอบปากคำตลอดทั้งวัน นายเอก มีท่าทีสงบลง แต่ยังคงให้การปฏิเสธกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตำรวจจะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นประวัติก่อนหน้านี้ที่ถูกดำเนินคดี และข้อมูลจากชาวบ้าน โดยยืนยันว่าจะดำเนินการทุกมิติและรอบคอบอย่างถึงที่สุด

โดยตำรวจจะแจ้งข้อกล่าวหา ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธมีด ส่วนสิ่งเทียมอาวุธปืนที่ค้นมาได้นั้นจะไปตรวจสอบเป็นปืนจริงหรือไม่ และเบื้องต้นการตรวจปัสสาวะไม่พบสารเสพติด

สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษกในวันพรุ่งนี้ โดยในสำนวนตำรวจจะคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากพนักงานสอบสวนจะต้องบรรยายพฤติการณ์ และประวัติการกระทำความผิดของนายเอก ที่พบว่ามีการกระทำความก่อนหน้านี้ โดยจะบรรยายในเรื่องของพฤติกรรม เพื่อให้ศาลพิจารณาเรื่องของความรุนแรงและมีผลกระทบกับประชาชนในวงกว้าง เชื่อว่าจะมีผลในการพิจารณาของศาลอย่างแน่นอน เพราะอัตราโทษของผู้ที่เคยกระทำความผิด หากพบว่ามีการประทำความผิดซ้ำ ศาลจะหยิบยกมาให้ความสำคัญในการพิจารณา