สนามข่าว 7 สี - เรื่องนี้ต้องบอกว่า กลายเป็นเรื่องวุ่น ๆ ของเถ้าแก่ กับลูกน้อง หลังจากเถ้าแก่ แจ้งความตำรวจ ถูกลูกน้องที่รับจ้างขับรถบรรทุก 6 ล้อตู้ทึบ ขโมยรถและลักน้ำมันไป ตำรวจก็ตามกันให้วุ่นก่อนไป เจอรถที่ปั๊มน้ำมันที่จังหวัดสิงห์บุรี แต่กลับเป็นหนังคนละม้วน เมื่อลูกน้องโต้กลับว่า เถ้าแก่ ให้มาจอดรถที่ปั๊มเอง งงใจ ทำไมแจ้งความ เมื่อทั้งคู่มาเจอกัน ก็ปะทะคารมกันแบบนี้
2 ผัวเมีย ถึงกับ งงใจ คนเป็นเมียนี่ของขึ้นทันที หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสอบ เนื่องจากเถ้าแก่ คือนายประเสริฐ อายุ 48 ปี ชาวสุรินทร์ ไปแจ้งความว่า ถูกนายมงคล อายุ 24 ปี ลูกน้องชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ที่มารับจ้างขับรถหกล้อตู้ทึบสีขาว ลักน้ำมันในรถไปขาย และกำลังจะขโมยรถหลบหนี แต่สัญญาน GPS ได้ว่ารถจอดอยู่ที่ปั๊มใน จังหวัดสิงห์บุรี ก่อนที่ตำรวจจะตามมาพบ
แต่ทันทีที่เผชิญหน้ากันระหว่างเถ้าแก่ กับลูกน้อง ก็เลยมีการปะทะคารม โดยผัว-เมีย คู่นี้ยืนยันว่า เถ้าแก่ เป็นคนสั่งให้มาจอดรถที่นี่เอง เพื่อรอขึ้นของโรงงานกระดาษที่ห่างจากปั๊มไป 10 กิโลเมตร แต่ตอนเช้ากลับโทรมายกเลิก ที่ผ่านมา จะตกลงแบ่งรายได้กัน พอรับเงินจากลูกค้าเสร็จ คนขับจะได้ส่วนแบ่ง 65%
แต่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ทั้งค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน ค่าส่งเอกสาร ค่าปะยาง ซ่อมรถ ส่วนเถ้าแก่ได้ 35% แต่จู่ ๆ กลับมาแจ้งความขโมยรถและน้ำมัน ซึ่งเมียคนขับรถก็แฉแหลก ว่าที่ผานมาถูกเถ้าแก่เอาเปรียบมาตลอด เคลียร์เงินแต่ละครั้งแทบไม่เหลือ เคยได้เงินทิปจากลูกค้ามา 300 บาท เถ้าแก่ก็มาขอหักไปอีกบอกว่างานเหมา
2 ผัวเมียบอกว่า ถ้าขโมยน้ำมันไปขายจริงตอนนี้ก็ต้องมีเงิน แต่ที่ไหนได้ในตัวแทบไม่เหลือเงินสักบาท เรื่องนี้กลับกลายเป็นว่า ตำรวจที่จะตามมาจับเลยต้องเป็นฝ่ายควักเงินเลี้ยงข้าวทั้งคู่ให้หายหิวจะได้ใจเย็น ๆ
ส่วนนายประเสริฐ เถ้าแก่ ซึ่งเป็นเจ้าของรถก็ติดใจว่า ระยะทางวิ่งรถไม่กี่กิโลเมตร แต่ทำไมต้องจ่ายค่าน้ำมันมากเกิน เมื่อเช้าพยายามโทรศัพท์หา เพื่อที่จะให้ไปขึ้นของที่บางบัวทอง แต่โทรไม่ติด พอรู้ว่ารถอยู่ที่สิงห์บุรี จึงแจ้งตำรวจ
หลังจากเจรจากันไปกันมาในที่สุด ก็ได้บทสรุป เถ้าแก่ ก็ให้นายมงคลลาออก และทั้งสองฝ่ายก็ไม่ติดใจเอาความกัน นายมงคล ก็ไปเก็บของลงจากรถเดี๋ยวนั้นเลย ทิ้งรถไว้ให้เถ้าแก่หาวิธีนำรถกลับไปเอง เพราะไม่มีน้ำมัน ส่วนเถ้าแก่ ก็ต้องเรียกให้คนมาขับรถบรรทุกกลับไป ก่อนจะจบกันด้วยดี
