บริษัททัวร์เปิดใจปม อ้างเป็น ตร. รีดเงิน นทท.จีน

View icon 118
วันที่ 15 ก.ค. 2567
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - กลุ่มชาย 4 คน อ้างเป็นตำรวจขี่รถยนต์ประกบรถโดยสารของนักท่องเที่ยวจีน ก่อนเรียกให้จอด และรีดเงินไป 700,000 บาท กลางมอเตอร์เวย์ พัทยา

คลิปเหตุการณ์เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 เวลา 19.29 น. บริเวณหลัก กม.3+600 ถนนสาย 7 ตอน 5 (มอเตอร์เวย์) ขาเข้าเมืองพัทยา ในคลิปจะเห็นว่ามีรถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ขับประกบเทียบข้าง แล้วเข้าปาดหน้ารถโดยสารของนักท่องเที่ยวชาวจีน ก่อนจะมีรถยนต์ ยี่ห้อ ฟอร์ด เอฟเวอร์เรส สีดำ อีกคัน เข้าประกบข้าง แล้วคนนั่งข้างคนขับทั้ง 2 คัน เปิดกระจกใช้กระบองไฟโบกเรียกให้หยุดรถ ไปเข้าที่เลนซ้ายของถนน จากนั้นชายฉกรรจ์ที่อ้างตัวเป็นตำรวจ 4 คน ได้ลงมาล้อมรถไว้ ขอตรวจสอบวีซาและพาสสปอร์ตชาวจีน และถ่ายรูปรถบุคคลที่นั่งโดยสารมาในรถ ซึ่งคนขับรถโดยสารได้แจ้งกลับกลุ่มชายฉกรรจ์ว่า ชาวจีนพักอยู่ที่พัทยา พร้อมกับเรียกตรวจใบขับขี่คนขับรถโดยสาร และเชิญทั้งหมดลงจากรถ ก่อนที่คลิปจะตัดไป

ต่อมากลุ่มชายที่อ้างว่าเป็น “ตำรวจ” ได้พาผู้โดยสารทั้งหมดไปที่เซฟเฮ้าส์ แล้วเอาเงินนักท่องเที่ยวจีนไป 700,000 บาท จากนั้นได้ปล่อยตัวคนขับรถโดยสารกับนักท่องเที่ยวจีนให้กลับมา

คลิปนี้เพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ Part6 ได้โพสต์เอาไว้ พร้อมระบุข้อความว่า “ร้องเรียนตรวจสอบ พร้อมคลิปบางส่วน หลังมีคนอ้างเป็นตำรวจเรียกเงินนักท่องเที่ยวชาวจีน สื่อสังคมช่วยตามขยายประเด็นด้วย”

ล่าสุด นายบี (นามสมมุติ) เจ้าของบริษัทท่องเที่ยว ได้เดินทางเข้ามาขอพบกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษา รมว. มหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังคนขับรถโดยสารที่เกิดเหตุ เป็นเครือข่ายอยู่ในบริษัทของตนเอง และขณะนี้หายตัวไปแล้ว ไม่สามารถติดต่อได้ และเมื่อวานนี้ได้มีคนโทรศัพท์มาหา อ้างว่าเป็นตำรวจท่องเที่ยว แต่งกายนอกเครื่องแบบมา จะเข้ามามาหาตนที่บ้าน ตนกับครอบครัวจึงเกรงจะไม่ปลอดภัย จึงมาร้องขอให้ท่านเอกภพ ช่วยเหลือ

นายบี (นามสมมุติ) เจ้าของบริษัททัวร์ เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 ตนได้รับการติดต่อจากนายหน้าให้ไปรับคนจีน 2 คน จากเชียงราย เพื่อมาส่งที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านพัทยา จังหวัดชลบุรี จึงทำการตรวจสอบพาสปอร์ตชาวจีนว่าถูกต้องไหม หลังตรวจสอบแล้วถูกต้อง จึงได้ตกลงราคากันไว้ที่ 12,000 บาท จากนั้นตนจึงประสานไปยังลูกข่ายที่อยู่ใกล้กับจุดที่นักท่องเที่ยวอยู่ ต่อมาได้มีคนขับรถโดยสารที่ชื่อว่า “เอก” เสนอรับงานนี้ ตนจึงแจ้งพิกัดของนักท่องเที่ยวชาวจีนที่จะให้ไปรับ ระหว่างเดินทางตนได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับคนขับรถอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งช่วงประมาณ 19.00 น. ตนไม่สามารถติดต่อคนขับรถได้ มาติดต่อได้อีกทีหลังผ่านไป 2 ชั่วโมง

คนขับรถได้เล่าให้ฟังว่า ช่วงบริเวณมอเตอร์เวย์ใกล้จะถึงจุดหมายแล้ว ถูกรถยนต์ 2 คันขับมาปาดหน้า มีชาย 4 คนลงมาจากรถ อ้างตัวว่าเป็นตำรวจ มาขอตรวจค้นพาสปอร์ตของนักท่องเที่ยวจีน แต่พูดคุยกันไม่รู้เรื่อง ทางกลุ่มที่อ้างว่าเป็นตำรวจได้โทรศัพท์ไปเรียกล่ามมา จากนั้นประมาณ 10 นาที ล่าได้เดินทางมาถึง กลุ่มชายฉกรรจ์ดังกล่าวได้พาคนขับรถกับลูกค้าชาวจีนไปค้นที่เซฟเฮาส์ ก่อนจะเห็นคนจีนมีเงินดอลลาร์ และเงินหยวน ตีเป็นเงินไทยประมาณ 700,000 บาทไทย จึงยึดเอาเงินดังกล่าวไป ซึ่งตอนแรกชาวจีนก็ขัดขืน ล่ามจึงบอกทำนองว่าหากไม่ยอมก็จะถูกยัดข้อหา คนจีนจึงยอม ก่อนจะปล่อยให้คนขับรถเช่า พาคนจีนไปส่งหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านพัทยา 

และเมื่อวานนี้ ก็มีคนติดต่อมาอ้างเป็นตำรวจท่องเที่ยว บอกจะเข้ามาพบที่ทำงาน โดยเอารถส่วนตัวไป และใส่ชุดนอกเครื่องแบบ ทั้งที่ตามหลักความเป็นจริงควรจะนัดไปพบที่ทำการของตำรวจท่องเที่ยวมากกว่า ตนเองรู้สึกไม่สบายใจว่าเป็นตำรวจท่องเที่ยวจริงหรือปลอม จึงปฏิเสธไป ไม่ให้เข้ามาพบ

ด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด บอกว่า ได้ประสานตำรวจ สภ.เมืองพัทยา แล้วว่ามีข้อมูลว่า "คนขับโดยสารใช้ชาวจีนตอนเกิดเหตุ" ตอนนี้อยู่กับตำรวจท่องเที่ยว ก็ต้องขอฝากตำรวจท่องเที่ยว ให้ส่งคนขับรถเช่าให้กับตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ไปสอบสวนขยายผลด้วย เพราะตอนนี้ไม่รู้ว่าใครเป็นใคร เป็นตำรวจจริงหรือไม่ เนื่องจากไม่มีใครสามารถติดต่อคนขับรถเช่าได้เลย และหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้จริงก็ต้องขยายผลให้ถึงที่สุด