เรืองไกรร้อง กกต. สอบเลือกตั้ง อบจ.ปทุมฯ

View icon 171
วันที่ 14 ก.ค. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เรืองไกรยื่นร้อง กกต. สอบเลือกตั้ง อบจ.ปทุมฯ มีผู้ฝ่าฝืนกฎหมายจัดมหรสพ ช่วยหาเสียงหรือไม่ หลังผ่านมา 1 เดือน ยังไม่รู้ผลสอบ

วันนี้ (14 ก.ค. 67) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เปิดเผยถึงกรณีผลการเลือกตั้งนายกฯ อบจ.ปทุมธานี ที่ยังเป็นข่าวอยู่นั้น ในการเลือกตั้งดังกล่าว มีการร้องกล่าวหาผู้สมัครด้วย ตามใบรับคำร้อง อบจ.ปทุมธานี เลขที่ อบจ.1/2567 วันที่ 14 มิ.ย. 2567 รายละเอียด กกต. ควรทราบดีแล้วนั้น ซึ่งการร้องผ่านมาประมาณ 1 เดือนแล้ว แต่ยังไม่ปรากฏข่าวการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวว่ามีผลเป็นประการใด ทั้งที่ตามพยานหลักฐานและเอกสารประกอบรวมทั้งภาพและคลิปในคำร้องดังกล่าว มีพอสมควร กรณี จึงมีเหตุอันควรขอให้ กกต. ตรวจสอบเรื่องนี้โดยเร็ว

นายเรืองไกร กล่าวว่า วันนี้ตนจึงส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้ กกต. ตรวจสอบตามใบรับคำร้อง อบจ.ปทุมธานี เลขที่ อบจ.1/2567 ดังต่อไปนี้
            
ข้อ 1. พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 มาตรา 65 วรรคหนึ่ง (3) และ (4) และมาตรา 126 วรรคสอง บัญญัติว่า           
มาตรา 65 ห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่น ให้งดเว้นการลงคะแนนให้แก่ผู้สมัคร หรือการชักชวนให้ไปลงคะแนนไม่เลือกผู้ใดเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น ด้วยวิธีการ ดังต่อไปนี้ ... (3) ทำการโฆษณาหาเสียงด้วยการจัดให้มีมหรสพหรือการรื่นเริงต่าง ๆ (4) เลี้ยงหรือรับจะจัดเลี้ยงผู้ใด
มาตรา 126 วรรคสอง บัญญัติว่า “ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 65 (3) (4) หรือ (5) หรือมาตรา 69 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปี ถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ของผู้นั้นมีกำหนดยี่สิบปี”
            
ข้อ 2. เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 2567 เว็บไซต์ข่าว กรณี บิ๊กแจ๊ส ร้องคู่แข่ง ชิงนายกปทุม ทำผิดกม. งานบวชที่ทักษิณมา เข้าข่ายจัดมหรสพชัด ช่วยหาเสียง เมื่อวันที่ 14 มิ.ย.67 ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำจังหวัดปทุมธานี ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.วัฒนา วงศ์จันทร์ ผู้ประสานงานผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ กกต. เนื่องจากมีผู้สมัครนายก อบจ.ปทุมธานี คาดว่ากระทำความผิดเกี่ยวกับกฎหมายเลือกตั้ง โดยมี นายกิตติ์ธเนศ จันวิวัธน์เวช รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดปทุมธานี เป็นผู้รับหนังสือร้องเรียน เพื่อตรวจสอบและดำเนินตามขั้นตอนต่อไป”
            
ข้อ 3. การร้องตามข่าวข้างต้น นั้น สนง.กกต.จว.ปทุมธานี ได้รับเอกสารคำร้องลงวันที่ 14 มิ.ย.67 ไว้แล้ว ตามใบรับคำร้องเลขที่ อบจ.1/2567 วันที่ 14 มิ.ย. 2567 โดยผู้ร้องมีคำขอท้ายคำร้องว่า เป็นการหาเสียงที่ฝ่าฝืน มาตรา 65 (3) และ(4) และไม่ปฏิบัติตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2563 ข้อ 16 และ ข้อ 23 (5)  รายละเอียด กกต. ควรทราบแล้วนั้น
           
ข้อ 4. เนื่องจากคำร้องดังกล่าวมีการกล่าวหาบุคคลหลายคนและมีข้อเท็จจริงทั้งเอกสาร ภาพถ่าย และคลิปประกอบที่ชัดเจนพอควร แต่เวลาล่วงมาประมาณ 1 เดือนแล้ว ปัจจุบัน ยังไม่ปรากฏข่าวทางสื่อมวลชนเกี่ยวกับการตรวจสอบกรณีดังกล่าวมีผลเป็นประการใด อีกทั้งคำร้องดังกล่าวไม่ได้ระบุถึงบทกำหนดโทษตามมาตรา 126 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 ซึ่งรวมโทษที่ให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนดยี่สิบปี ไว้ด้วย กรณีจึงมีความจำเป็นต้องร้อง กกต. ใช้ม. 106 เข้ามาดำเนินการตรวจสอบกรณีดังกล่าวโดยเร็ว เพื่อให้เกิดความถูกต้องครบถ้วนตามตัวบทกฎหมายและเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรมกับทุกฝ่าย 

ข้อ 5. จากการค้นหาใน google พบคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13545/2556 ซึ่งมีการย่อสั้นไว้ว่า  “ในการโฆษณาหาเสียงของจำเลยทั้งสิบสองมีการเล่นดนตรีพื้นบ้านประเภทสะล้อซอซึง บนรถยนต์บรรทุกในขบวนรถหาเสียง การที่จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นหัวหน้ากลุ่มจาวเชียงคำยืนปราศรัยอยู่บนรถยนต์บรรทุกหกล้อ โดยมีจำเลยที่ 2 ถึงที่ 12 ยืนอยู่บนรถยนต์บรรทุกคันดังกล่าวร่วมกับจำเลยที่ 1 เมื่อขบวนรถหาเสียงเข้าพื้นที่เลือกตั้งเขตของตน การเล่นดนตรีพื้นบ้านประเภทสะล้อซอซึงในพฤติการณ์ดังกล่าวจึงถือได้ว่าจำเลยทั้งสิบสองซึ่งเป็นผู้สมัครกระทำการเพื่อจูงใจผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ลงคะแนนเลือกตั้งแก่ตนเอง โดยทำการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งด้วยการจัดให้มีมหรสพหรือการรื่นเริงใด ๆ
            
ข้อ 6. กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13545/2556 พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545 มาตรา 57 และมาตรา 118 มีความคล้ายกันกับบทบัญญัติในมาตรา 65 และมาตรา 126 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 ซึ่งรายละเอียด กกต. ทราบดีอยู่แล้วนั้น

นายเรืองไกร สรุปในท้ายหนังสือว่า ขอให้ กกต. นำมาตรา 106 มาดำเนินการตรวจสอบการหาเสียงเลือกตั้งของผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กับพวก ตามใบรับคำร้องที่ อบจ.1/2567 ลงวันที่ 14 มิ.ย. 2567 ว่ามีผู้ใดที่กระทำการหาเสียงที่เป็นการฝ่าฝืน มาตรา 65 (3) และ (4) หรือไม่ และมีผู้ใดที่ฝ่าฝืนจะมีความผิดตามมาตรา 126 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562 หรือไม่ ทั้งนี้ ขอให้นำคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13545/2556 มาเป็นแนวทางในการตรวจสอบด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง