ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 13 ก.ค. 67 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.วิทยา ศิริเทพ รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุชายคลุ้มคลั่งอาละวาดจะทำร้ายคนในครอบครัว เหตุเกิดภายในบ้านโก่ย หมู่ 2 ต.หนองนาคำ อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี จึงนำกำลังสายตรวจ 191 และสายตรวจประชาชน นางวัณวัสสา ธานีกุล ผู้ใหญ่บ้านโก่ย รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบ นางบุญเพ็ง อายุ 57 ปี เล่าว่า บ้านหลังนี้อยู่ด้วยกัน 5 คน มี แม่ ตน ลูกสาว น้องชาย และน้องสะใภ้ ตนทำงานอยู่ในตัวเมืองอุดรธานี ส่วนน้องชายและน้องสะใภ้ทำงานก่อสร้าง ตอนเกิดเหตุตนไม่ได้อยู่บ้าน ยังทำงานอยู่ในเมือง ลูกสาวโทรมาบอกตนว่าน้าชายเมากลับมา พอยายเรียกกินข้าวก็รำคาญ อาละวาดถือมีดมาขู่จะปาดคอยาย พอลูกสาวโทรบอกตนก็บอกว่าไม่กลัว จะฆ่าปาดคอหลานสาวด้วย ตนกลับมาก็จะฆ่ายกครัว หลังจากนั้นก็ถือมีดไปฟันตู้ ฟันประตู ซึ่งน้องชายมีพฤติกรรมแบบนี้หลายครั้ง ตนก็รีบกลับมาและแจ้งตำรวจ
ด้าน น.ส.ตาล อายุ 16 ปี มีอาการตกใจร้องไห้เล่าทั้งน้ำตาว่า ขณะที่ยายและตนกำลังนั่งกินข้าว น้าชายและน้าสะใภ้ได้กลับมาจากทำงาน แล้วเดินขึ้นไปห้องนอนบนชั้นสอง พอยายเห็นลูกชายกลับมาบ้าน ก็ได้เรียกให้มากินข้าว แต่ยายเรียกหลายครั้ง ทำให้น้าชายรำคาญ จึงได้ถือมีดมาด่าว่าให้ยาย บอกว่าจะนอนพักผ่อนแล้ว เรียกทำไมหลายครั้ง พร้อมกับขู่จะปาดคอยาย เอามีดไปฟันตู้ พอตนโทรไปบอกแม่ น้าชายก็ขู่ว่าจะปาดคอตนด้วย จะฆ่ายกครัวเลย ซึ่งเกิดเหตุแบบนี้หลายครั้ง เวลาเมามักจะอาละวาด
ขณะที่ นายทองขาว อายุ 52 ปี ซึ่งยังมีอาการมึนเมา พอเห็นตำรวจอาการมึนเมาก็หาย พร้อมกับบอกว่า ตนไปทำงานก่อสร้างกับภรรยา หลังเลิกงานตนดื่มเหล้าขาวจนเมา และกลับมาบ้านกับภรรยา ขึ้นไปบนห้องนอนชั้นสอง กำลังจะพักผ่อน แต่แม่ส่งเสียงเรียกให้ตนลงไปกินข้าวหลายครั้ง ตนรู้สึกรำราญ เพราะตนจะพักผ่อน จะกินจะคุยอะไรกันมากมาย จึงเดินไปต่อว่าแม่ จากนั้นก็เดินไปไหว้ขอโทษ และหอมแก้มนางบุญเพ็งพี่สาว ซึ่งได้ผลักนายทองขาวออก เพราะเหม็นกลิ่นเหล้า
อย่างไรก็ตาม นางบุญเพ็ง บอกให้นายทองขาวและภรรยาไปนอนที่บ้านแม่ยาย ซึ่งอยู่อีกหมู่บ้าน หายเมาและทุกคนหายหวาดกลัวแล้วค่อยกลับมาบ้าน มาคุยกันใหม่ เพื่อทำข้อตกลงกัน ครั้งนี้จะไม่เอาเรื่อง แต่ถ้ามีพฤติกรรมแบบนี้อีก จะให้ตำรวจจับไปดำเนินคดี และไล่ให้ไปอยู่ที่เถียงนา ไม่ให้อยู่ด้วย เพราะเกรงว่าคนในครอบครัวจะได้รับอันตราย ซึ่งนายทองขาวก็ยอมรับผิดและเดินไปพร้อมกับภรรยา ถือกระเป๋าเสื้อผ้าไปนอนบ้านแม่ยาย
