เจาะประเด็นข่าว 7HD - ยิ่งขุดยิ่งฉาว ยิ่งสาวยิ่งลึก วันนี้คอลัมน์หมายเลข 7 พาคุณผู้ชมไปตรวจสอบการซื้อขายตำแหน่ง เบิกทางเข้าทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภา จะแก้ไขอย่างไร อุดช่องโหว่ได้หรือไม่ ติดตามกับคุณปริวัตร บุพศิริ
คำยืนยันของประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง ที่เปิดปากยอมรับกับคอลัมน์หมายเลข 7 คุยซื้อขายตำแหน่งเลขานุการ กรรมาธิการจริง แต่เรื่องนี้จบไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ไม่มีการซื้อขายตำแหน่งใด ๆ เกิดขึ้น ท้าคนแฉตรวจสอบข้อเท็จจริงย้อนหลัง
ก่อนถูกแฉเรื่องนี้ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง ถูก ซ้อลักษณ์ อดีตเพื่อนร่วมงาน แฉแชตลับซื้อขายวุฒิการศึกษาของมหาวิทยาลัยดัง กลายเป็นเรื่องใหญ่โต โยงถึงคนขับรถส่วนตัวของประธานวิปรัฐบาลชุดปัจจุบัน เอี่ยวซื้อขายวุฒิการศึกษาด้วย
โดยประธานวิปรัฐบาล ออกมายอมรับเป็นคนขับรถของตนเองจริง ยืนยันไม่ปกป้อง ตำรวจสอบสวนได้เต็มที่ ซึ่งคนขับรถและต้นอ้อไปลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน ต้นอ้อยอมรับว่าเป็นคนร้องขอใช้บัญชีธนาคารรับฝากและโอนเงินให้บุคลากรของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เป็นค่าลงทะเบียนเรียน เพราะไม่สะดวกโอนเงินเอง
จากข้อมูลพบว่าตำแหน่งเลขานุการประจำคณะกรรมาธิการแต่ละคณะ เป็นการเสนอชื่อต่อที่ประชุม โดยไม่ระบุชื่อผู้เสนอ และไม่ต้องลงนามรับรองการแต่งตั้ง บางคณะมีการเสนอแต่งตั้งหลายสิบคน เป็นดุลยพินิจของกรรมาธิการคณะนั้น สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรมีหน้าที่เสนอออกคำสั่งแต่งตั้งตามคณะกรรมาธิการแต่ละคณะเสนอมาเท่านั้น
การซื้อขายตำแหน่ง ออกบัตรให้คณะทำงาน วุ่นไปอีก เพราะพบแอบอ้างไปที่ทำเนียบรัฐบาลด้วย ทำให้เกิดการตรวจสอบกันอุตลุต ยิ่งสาวยิ่งเจอ นายกรัฐมนตรี สั่งเร่งตัดวงจร หาบทลงโทษอย่างจริงจัง
ขนาดตำแหน่งการเมืองระดับเลขานุการประจำคณะกรรมาธิการ ยังซื้อขายกันหลักแสน เกิดคำถามว่า แล้วตำแหน่งที่สูงกว่านั้นตัวเลขซื้อขายตำแหน่งจะพุ่งไปเท่าไหร่ สุดท้ายลงทุนมาก ถอนทุนคืน กลายเป็นวังวนคอร์รัปชัน ที่เป็นมะเร็งร้ายกัดกินสังคมไทยไม่รู้จบ
