รวบเซลล์แมนแสบ ยักยอกเงินบริษัทหลายบริษัทบริษัทเดียวเสียหายกว่า 1.5 ล้านบาท

View icon 106
วันที่ 5 ก.ค. 2567
ข่าวช่อง7HD
แชร์
รวบเซลล์แมนแสบ ยักยอกเงินบริษัทหลายบริษัทบริษัทเดียวเสียหายกว่า  1.5 ล้านบาท

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกันจับกุม นายจรัส อายุ 42 ปี บุคคลตามหมายจับ 2 หมาย ได้แก่
- หมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ 1070/2565 ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2565
- หมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ 111/2565 ลงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565

โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ยักยอก” สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปี 2562 นายจรัสฯ (ผู้ต้องหา) ซึ่งทำงานเป็นพนักงานที่บริษัทนำเข้าและจำหน่ายเครื่องสำอางแห่งหนึ่งย่านมีนบุรี โดยผู้ต้องหามีหน้าที่หาลูกค้า และเสนอขายสินค้าเครื่องสำอางและสินค้าเสริมความงามของบริษัท ซึ่งภายหลังจากที่ผู้ต้องหาทำงานในบริษัทฯ ได้ไม่นาน บริษัทฯ ได้ตรวจพบว่านายจรัสฯ ได้แอบยักยอกเงินของบริษัทฯ โดยเป็นการรับเงินค่าสินค้าจากลูกค้าแล้วไม่ยอมส่งเงินให้บริษัทฯ แอบนำเอาไปใช้ส่วนตัวจำนวนหลายครั้ง รวมมูลค่าความเสียหายมากกว่า 1.5 ล้านบาท ซึ่งภายหลังจากก่อเหตุ ผู้ต้องหาได้หลบหนีออกจากบริษัทฯ​ และไปสมัครเข้าเป็นพนักงานขายที่บริษัทอื่นย่านมีนบุรี และก่อเหตุในลักษณะเดิมอีก โดยจากการตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียหายในพื้นที่มีนบุรีรวมตัวเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อศาลอาญามีนบุรี ซึ่งต่อมาศาลอาญามีนบุรี ได้ออกหมายจับผู้ต้องหารายดังกล่าวไว้

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กก.1 บก.ป. ได้ทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายดังกล่าว โดยพบว่าผู้ต้องหายังมีพฤติกรรมยักยอกในลักษณะดังกล่าวอยู่ โดยจะเข้าไปทำงานในบริษัทต่างๆ และก่อเหตุกระทำความผิด ก่อนจะหลบหนีไปในพื้นที่จังหวัดอื่น ทั้งจังหวัดชลบุรี, จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดกาฬสินธุ์ อีกทั้งยังทราบว่าผู้ต้องหาได้พยายามหลบหนีออกนอกประเทศอีกด้วย

จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่าปัจจุบันผู้ต้องหาแอบมาพักอาศัยและทำงานอยู่ที่บริษัทในพื้นที่ตำบลบางตีนเป็ด อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงลงพื้นที่ตรวจสอบและวางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ จนสามารถจับกุมผู้ต้องหารายดังกล่าวได้ จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งศาลอาญามีนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยรับว่าทำไปเพราะแอบเอาเงินไปลงทุน แล้วหมุนเงินไม่ทัน​