คู่รักต่างชาติแสบ หลอกขายนาฬิกาหรูปลอม พร้อมใบเซอร์ ร้านค้าเสียหาย 12 ล้านบาท แจ้งความ ตร. ตามรวบได้ที่คอนโด
วันนี้ (3 ก.ค.67) ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รองผบช.สตม. พ.ต.อ.รัฐโชติ โชติคุณ รอง ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง รอง ผบก.สส.ภ.7 ปฏิบัติราชการ บก.สส.สตม. พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพยอม รอง ผบก.ตม.3 พ.ต.อ.รัฐพงศ์ แก้วยอด ผกก.4 บก.สส.สตม. แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาต่างชาติ หลอกขายร้านนาฬิกาแบรนด์ดังปลอม
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.สส.สตม. จับกุม นายอัลคัส (นามสมมติ) อายุ 32 ปี สัญชาติคาซัคสถาน และน.ส.บิลลี่ (นามสมมติ) อายุ 38 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลแขวงพระนครใต้ ที่ จ.163-164/2567 ลงวันที่ 21 พ.ค.2567 ความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง โดยจับกุมได้บริเวณคอนโดมิเนียมภายใน ซ.สุขุมวิท 32 ถ.สุขุมวิท แขวงคลองตันเขตคลองเตย กรุงเทพฯ
จากกรณีที่นายอัลคัส และ น.ส.บิลลี่ ผู้ต้องหา ได้ร่วมกันนำนาฬิกาหรูของปลอมมาหลอกนายหน้า ที่เป็นตัวกลางในการรับซื้อและขายนาฬิกา โดยบอกว่าจะจ่ายค่าตอบแทนในการนำไปขายให้เรือนละ 800 ดอลลาร์สหรัฐ เมื่อนายหน้าตกลง ผู้ต้องหาได้นำนาฬิกาดังกล่าว พร้อมเอกสารจากร้านที่รับตรวจสอบนาฬิกาที่มีชื่อเสียง โดยอ้างว่าเป็นเอกสารรับรองของจริง
จากนั้นนายหน้าได้นำนาฬิกาไปขายให้กับร้านนาฬิกาชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้เสียหายเป็นเงิน 12 ล้านบาท จากนั้นนายหน้าได้โอนเงินให้กับผู้ต้องหา ต่อมาเจ้าของร้านนาฬิกาผู้เสียหาย ได้ทำการตรวจสอบพบว่านาฬิกาและเอกสารรับรองนาฬิกาเป็นของปลอม จึงได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้เป็นนายหน้า และได้มีการเจรจายอมความกัน โดยนายหน้ายินยอมชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้เสียหาย และได้แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ให้ดำเนินคดีกับนายอัลคัส น.ส.บิลลี่ ซึ่งต่อมาศาลแขวงพระนครใต้ได้ออกหมายจับทั้งคู่ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง”
ต่อมา กก.4 บก.สส.สตม. ได้ประสานข้อมูลกับทาง สน.ทองหล่อ เพื่อติดตามตัว ทั้ง 2 คนมาดำเนินคดี กระทั่งทราบว่านายอัลคัส และ น.ส.บิลลี่ หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ในห้องพักของคอนโดมิเนียมภายใน ซ.สุขุมวิท 32 จึงได้สืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอหมายค้นต่อศาลแขวงพระนครใต้เข้าทำการตรวจค้นห้องพักดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบนายอัลคัส และน.ส.บิลลี่ จึงได้จับกุมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
