ลูกค้าอารมณ์ร้อนขู่ทำร้ายพนักงานส่งของ

View icon 100
วันที่ 3 ก.ค. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
พนง.ส่งพัสดุ เจอลูกค้าหัวร้อน ขู่ใช้ไม้สนุกเกอร์ตี ด้านคู่กรณีชี้แจง หากคุยกันดีแต่แรก คงไม่เกิดเรื่องดังกล่าว

เพจ “อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part6” โพสต์เรื่องราวร้องทุกข์ของพนักงานส่งพัสดุคนหนึ่ง หลังเจอลูกค้ากร่าง เบี้ยวจ่ายค่าพัสดุ ได้ของไปแล้วแต่กลับเดินจิบไวน์ เล่นสนุกเกอร์อยู่ในบ้าน ไม่สนใจ หนำซ้ำพอถูกทวงถามกลับไม่พอใจ ขู่จะใช้ไม้สนุกเกอร์ทำร้ายร่างกาย

ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ ( 3 ก.ค.67) ทีมข่าว 7 HD ไปสอบถาม นายพรพิพิฒน์ อายุ 22 ปี พนักงานส่งพัสดุของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เล่าว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ช่วงประมาณ 5 โมงเย็น ระหว่างที่ขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งพัสดุให้บ้านหลังดังกล่าว ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง โดยเป็นพัสดุแบบเก็บเงินปลายทางราคา 749 บาท ซึ่งมีเจ้าของบ้านที่เป็นผู้หญิง ได้เดินลงมารับด้วยตัวเอง พร้อมกับบอกให้ตนรอที่หน้าบ้านเพื่อจะไปหยิบเงินในบ้านมาจ่ายให้

ตนยืนรอประมาณ 5-10 นาที นานผิดสังเกต และเดินไปเดินมาด้วยอาการหงุดหงิด เพราะยังเหลือพัสดุที่ต้องนำส่งอีกหลายชิ้น ก่อนที่ชายอายุประมาณ 60 ปี จะเดินมาบอกว่า “ถ้ารอไม่ได้ก็เอาของกลับไป” ตอนนั้นตนรู้สึกโมโห แต่ก็พยายามเจรจาด้วยความใจเย็น แต่ชายคนดังกล่าว กลับข่มขู่ว่าจะใช้ไม้สนุกเกอร์ตี และขู่จะนำปืนมายิง ก่อนเดินมากระชากหมวกกันน็อกของตนจนกระเด็นหลุดไปพร้อมโทรศัพท์ หนำซ้ำยังมีชายอีกคน ออกมาพูดขู่ว่าจะสืบชื่อส่งไปให้บริษัทไล่ตนออกจากงาน ก่อนที่ผู้หญิง จะรีบวิ่งมาดึงทั้งคู่เข้าไปสงบสติในบ้าน ยอมรับรู้สึกเสียใจ และผิดหวัง เพราะปกติจะไปส่งพัสดุให้บ้านหลังนี้เป็นประจำ แต่ทุกครั้งจะมีแม่บ้านลงมารับ ไม่เคยเห็นหน้าเจ้าของบ้าน จนมาเจอเหตุการณ์นี้

ต่อมาทีมข่าว 7 HD เดินทางไปบ้านหลังดังกล่าว เพื่อพูดคุยกับเจ้าของบ้าน พบนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี ลูกชายเจ้าของบ้าน ชี้แจงว่า อยากให้ฟังมุมของตน เพราะที่ผ่านมาพนักงานส่งพัสดุคนนี้มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม ใจร้อน เวลามาส่งพัสดุที่บ้าน ก็ชอบแสดงอาการหงุดหงิดทุกครั้ง ซึ่งเป็นห่วงคนในบ้านที่มีแต่ผู้หญิง เพราะหากวันหนึ่งมาแสดงอาการแบบนี้ใส่โดยที่ไม่มีตนและพ่ออยู่ในบ้านก็ไม่รู้จะเกิดอันตรายขึ้นหรือไม่ ส่วนภาพที่ปรากฏออกไปในโลกโซเชียล ยอมรับผิดว่าไม่เหมาะสมจริง ที่ไปกระชากหมวกกันน็อค เพราะคุณพ่อต้องการจะดูหน้าพนักงานส่งพัสดุ เพราะรถจักรยานยนต์ที่ขี่เข้ามาไม่ติดป้ายทะเบียน จึงกลัวจะไม่ปลอดภัยกับครอบครัว ยืนยันว่ายังไม่ได้มีการลงไม้ลงมือทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด แต่ยินดีจ่ายค่าเสียหายให้กับคู่กรณี และไม่ได้ติดใจอะไรหากต้องมาส่งพัสดุให้กันอีก