คุมชาวเมียนมา สอบเพิ่ม หลังแทงคนขายของเก่า 9 แผล ดับ สารภาพ โมโหผู้ตาย ขโมยไก่ชนไปต้ม

View icon 151
วันที่ 2 ก.ค. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
คุมชาวเมียนมา สอบเพิ่ม หลังแทงคนขายของเก่า 9 แผล ดับ สารภาพ ผู้ตายชอบข่มขู่ ขโมยของ และล่าสุด ขโมยไก่ชนไปต้ม โมโหจึงก่อเหตุ

2 กรกฎาคม 2567 ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางบัวทอง ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายเอก หรือ มีฉายาว่า นายหยาม (ตามที่คนเรร่อนใช้เรียก) อายุ 38 ปี สัญชาติเมียนมา ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ ความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นเจตนา พร้อมของกลาง คือ 1.กรรไกร 1 ด้าม 2.ไม้อัด 1 อัน หลังจากเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.67 นายเอ ผู้ต้องหา ได้ก่อเหตุใช้กรรไกกระหน่ำแทงนายราเชน อายุ 40 ปี เสียชีวิตคาเพิงพัก มีบาดแผลกว่า 9 แผลบริเวณลำคอ และแขนซ้ายยาวประมาณ 5-6 ซม. แล้วหลบหนีไป

หลังจับกุมตำรวจนำตัวมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 3 จุด จุดแรกเป็นจุดที่นายเอก ผู้ก่อเหตุ เดินทางไปถามหาผู้เสียชีวิต แต่หลังจากที่หาไม่เจอ ส่วนจุดที่สองเป็นบริเวณเพิงพักใต้สะพานข้ามคลองลำโพ ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ที่ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธแทงผู้ตาย และจุดที่สามบริเวณริมคลองหลังศาลเจ้าพ่อจุ้ย ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 5 กม. 

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 2 ก.ค.67 ที่สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสน์ ผกก.สภ.บางบัวทอง ได้เบิกตัวนายเอ มาสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนนำตัวฝากขังต่อศาลจังหวัดนนทบุรี ในวันพรุ่งนี้ 3 ก.ค.67 โดยนายเอ มีสีหน้าเคร่งเครียด ขณะตำรวจสอบปากคำ นายเอได้ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเพียงสั้นๆว่า ตอนนี้ก็รู้เครียด ตนเคยเตือนผู้ตายหลายรอบแล้ว เรื่องขโมยของ แต่ผู้ตายไม่ยอมฟัง จึงทำให้ตนเกิดอารมณ์โมโห รวมถึงมีปากเสียงวันก่อเหตุด้วยจึงเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น

ด้าน​ พ.ต.อ.พฤฒ กล่าวว่า ผู้ก่อเหตุ​  ยังคงต้องมีการสอบปากคำ เพิ่มเติม เพื่อให้ครบสำนวน​คดี โดยนายเอเป็นบุคคลตกสำรวจ ไม่สามารถระบุได้ว่า เป็นสัญชาติใด แต่อยู่ในประเทศไทยมานาน​ เท่าที่มีการสอบปากคำก็ยังคงให้การยืนยันว่าก่อเหตุเพียงคนเดียวป้อมเหตุที่ก่อเหตุ มาจากประเด็นที่ผู้ตายชอบข่มขู่ ขโมยของ และล่าสุดขโมยไก่ชน ของผู้ก่อเหตุ นำไปต้ม จึงเกิดโมโห ทนไม่ไหว บันดาลโทสะ โดยจากพยานหลักฐานแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาฆ่าโดยเจตนา​ โดยวันนี้ยังมีการสอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติม และจะนำส่งศาลฝากขังในวันพรุ่งนี้

พ.ต.อ.พฤฒ กล่าวต่ออีกว่า ในพื้นที่ สภ.ชัยพฤกษ์ ยังมีกลุ่มคนเร่ร่อนบุคคลไร้สัญชาติ ตกสำรวจแบบนี้อีกจำนวนมาก เมื่อก่อเหตุ จะยากต่อการ สืบหาตัวคนร้าย​

ข่าวที่เกี่ยวข้อง