ระทึก! ปิดถนนล้อมจับคนขับเก๋งเมาซิ่ง ชนดะ 3 คันรวด ตำรวจควบคุมตัวเกิดการต่อสู้ชุลมุนกลางถนน จับเป่าสูงเกือบ 400 มิลิกรัม เจอแจ้งข้อหาหนักถึง 2 โรงพัก
วันนี้ ( 29 มิ.ย.67) พลเมืองดี และผู้เสียหาย ได้ใช้โทรศัพท์บันทึกภาพเหตุการณ์ ขณะตำรวจจราจรปิดล้อม และพยามเรียก ให้ชายคนขับรถเก๋งสีดำ เปิดประตูออกมามอบตัว แต่คนขับกลับไม่ยอม เอะอะโวยวาย และต่อสู้ขัดขวางเจ้าหน้าที่ ตำรวจ และพลเมืองดี ต้องช่วยกันล็อกตัว เพื่อจะใส่กุญแจมือ สุดท้ายมีการควบคุมตัวชายคนดังกล่าวข้ามถนน เพื่อนำตัวไปยังตู้จราจร ระหว่างนั้น ชายคนดังกล่าว กลับต่อสู้ และพยามชกหน้าตำรวจ ทำให้ต้องใช้ยุทธวิธีควบคุมตัวอีกครั้ง ซึ่งต้องใช้เวลากว่า 30 นาที สามารถควบคุมตัวได้สำเร็จ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบนถนนเทพารักษ์ ใกล้สี่แยกเคหะเมืองใหม่บางพลี ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ ชายคนดังกล่าว คือ นายมานิต อายุ 50 ปี เป็นคนขับรถเก๋ง และพบว่ามีรถที่ถูกขับพุ่งชน ได้รับความเสียหาย 2 คัน จากนั้นขับรถหลบหนีเข้าปั๊มน้ำมัน ได้ถอยชนรถในปั๊มอีก ก่อนขับหลบหนีไปบนถนนเทพารักษ์ และมาจนมุม ขณะรถจอดติดไฟแดงเคหะบางพลี ถูกเจ้าหน้าที่ไล่ล่าติดตามตัวเอาไว้ได้
เบื้องต้นชายคนดังกล่าวใบหน้าแดงกร่ำ มีกลิ่นคล้ายเมาสุรา พูดจาไม่รู้เรื่อง โวยวายเมื่อนำตัวไปที่ป้อมตำรวจจราจร สภ.บางเสาธง ชายคนนี้พยามชี้หน้า และปรี่จะชกตำรวจ จึงถูกจับใส่กุญแจมือไพล่หลัง เมื่อตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ พบว่าสูงถึง 368 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ และขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่นจากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น 2 พื้นที่ คือ สภ.บางพลี และ สภ.บางเสาธง
สอบถามเจ้าหน้าที่อาสาสมัครศิวะ พลเมืองดี ที่เข้าช่วยเหลือตำรวจ ให้ข้อมูลว่า ขณะขับรถมาถึงทีเกิดเหตุ สังเกตมีรถผู้ก่อเหตุ และรถชาวบ้านขับไล่ตามกันด้วยความเร็ว ตอนแรกคิดว่าแข่งกันมา จึงตามมาถึงสี่แยกจึงทราบเรื่อง และมีการตะโกนจากผู้เสียหายให้ช่วยจับคนขับรายนี้ ตนจึงเข้าไปช่วยเจ้าหน้าที่
ขณะที่ พ.ต.อ. โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางเสาธง ระบุว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว ถึงแม้ว่าต้นเรื่องจะเกิดขึ้นที่ สภ.บางพลี แต่ผู้ก่อเหตุขับรถเข้าเขตบางเสาธง และยังต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในขณะจับกุม ทำร้ายเจ้าพนักงาน จึงสั่งให้รับตัวกลับมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยจะแจ้งข้อหา เมาแล้วขับ , ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในขณะปฏิบัติหน้าที่ ,ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น และทำร้ายร่างกายและจิตใจของเจ้าหน้าที่ในขณะปฏิบัติงาน
