ป.ป.ส.ขยายผลจับกุมผู้ต้องหาชาวรัสเซีย พบ “เมฟีโดรน” ยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ขยายผลตรวจค้นห้องพัก พบยาเสพติดหลากหลายชนิด สอบ ผตห. รับจ้างเป็น “เงินดิจิทัล”
เมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2567 พลตำรวจโท ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เผยว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจาก สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับกรมศุลกากร ภายใต้โครงการความร่วมมือด้านปราบปรามและสกัดกั้นยาเสพติดพื้นที่ ท่าอากาศยาน (Airport Interdiction Task force : AITF) ตรวจยึดพัสดุภัณฑ์ระหว่างประเทศต้องสงสัย ภายในบรรจุแคปซูลกาแฟ ต้นทางการส่งจากประเทศโปแลนด์ จากการตรวจสอบภายในแคปซูลกาแฟพบผงสีน้ำตาลอ่อน ที่ส่งไปตรวจสถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. พบว่า ผงต้องสงสัย คือ ยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (เมฟีโดรน) “เมฟีโดรน คล้าย MDMA เสพโดยใช้วิธีการสูดควัน ฉีด หรือใส่แคปซูลกิน สถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ส. เคยตรวจพิสูจน์ พบ เมฟีโดรน เมื่อประมาณ 5 ปี มาแล้ว ก่อนจะประกาศให้เป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ซึ่งปัจจุบันก็พบเจอน้อยมาก ซึ่งเมฟีโดรน อาจจะถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของ ยาซอมบี้ (Bath Salts) ได้
พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ จึงมอบหมายให้ นายปฤณ เมฆานันท์ ผอ. สำนักปราบปรามยาเสพติด สืบสวนขยายผล ไปยังผู้รับพัสดุ ในพื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กระทั่งชุดปฏิบัติการพบชายชาวรัสเซีย เป็นผู้มาติดต่อรับพัสดุ จึงแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมขยายผลตรวจค้นห้องพักในพื้นที่ ต.ทับใต้ อ.หัวหิน ตรวจค้นพบ แอมเฟตามีน ,MDMA ,เอ็กซ์ตาซี ,LSD (สแตมป์เมา) , โคเคน , คีตามีน และเมฟีโดรน สอบสวนทราบว่า ผู้ต้องหามีพฤติการณ์ ทำหน้าที่รับพัสดุที่ซุกซ่อนยาเสพติดจากต่างประเทศ และใช้ห้องพักเป็นสถานที่ในการเก็บพักยาเสพติด ก่อนจะนำไปวางตามจุดต่าง ๆ ตามคำสั่งของผู้สั่งการ โดยรับค่าจ้างเป็นเงินสกุลดิจิทัล
โดยปัจจุบันพบว่ามียาเสพติดชนิดใหม่ ถูกลักลอบนำเข้าในประเทศ เช่น ปี 2565 พบสารเฟนทานิล (Fentanyl) และ 2CB ถูกลักลอบนำเข้ามาภายในประเทศผ่านทางพัสดุภัณฑ์ จากประเทศเทศต้นทางสหรัฐอเมริกา และทวีปยุโรป ปี 2566 พบลูกอมผสมยาเสพติด (ลูกอมสายตี้) และ Happy Water (แฮ๊ปปี้วอเตอร์) พบว่า เข้ามาภายในประเทศตั้งแต่ปี 2564 (พบครั้งแรกที่ กทม. และ จ.ชลบุรี) โดยมีปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ รวมถึงส่วนผสม เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ซึ่ง เมฟีโดรน เป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 เชื่อว่าเป็นการใช้เฉพาะกลุ่ม ยังไม่พบการแพร่ระบาดมากนัก แต่อย่างไรก็ยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง
