ลูกสาวแสบหลอกเอาเงินเปิดร้านขายวัสดุก่อสร้าง

View icon 131
วันที่ 28 มิ.ย. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
แม่สุดชํ้าถูกลูกสาวติดสามีเก่าแสบหลอกเอาเงินเปิดร้านขายวัสดุก่อสร้าง จนที่สุดสูญเงินเก็บทั้งชีวิตเกือบ 6 ล้าน

วันนี้ (28 มิ.ย.67 ) ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง จตุจักร กทม. จ่าคิงส์ แตงทิม สะพานใหม่ พา น.ส.รัตน์ตะวัน อายุ 47 ปี คุณแม่ซึ่งเป็นผู้เสียหายเดินทางเข้าพบ พงส.บก.ป.ร้องขอความช่วยเหลือคดีที่ถูก น.ส.พัชรินทร์(สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ลูกสาวของตนกับสามีเก่า ซึ่งทำงานตำแหน่งเสมียนประจำร้านค้าวัสดุก่อสร้าง ของผู้เสียหายเองกับสามีคนปัจจุบัน ได้ใช้กลอุบายยักยอกทรัพย์เป็นเงินจำนวนเกือบ 6 ล้านบาท แจ้งความ สน.หนองจอก เมื่อ 30 พ.ค.67ผ่านมา 1 เดือนคดีไม่คืบหน้า

น.ส.รัตน์ตะวัน แม่ และเป็นผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อปี 64 ลูกสาวเดินมาบอกว่าจะขอให้แม่เปิดหน้าร้านขายวัสดุอุปกรณ์เกี่ยวกับก่อสร้าง ตนซึ่งเป็นแม่พอได้ยินแบบนั้นก็รู้สึกดีที่ลูกจะมีธุรกิจเล็กๆเป็นของตัวเองประกอบกับลูกเคยทํางานเป็นเสมียนก่อสร้างมาก่อนและตนก็ทํางานเกี่ยวกับด้านนี้จึงตัดสินใจลงทุนเปิดหน้าร้านให้กับลูกสาว  โดยในช่วงแรกไม่มีปัญหาอะไร แม่สามารถเข้าดูเงินเข้า-ออก จากบัญชีของบริษัทได้ กระทั่งมาในปี 65 เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติของลูก เนื่องจากมีการเปลี่ยนบัญชีโอนเงินเป็นชื่อผู้ชายไม่ใช่ในนามบริษัท โดยเขาอ้างว่าบัญชีบริษัทที่เคยโอนเขาเปลี่ยนบัญชี ตนจึงไม่ติดใจแล้วโอนตามที่ลูกบอกมาโดยตลอด หลังจากนั้นพบว่าไม่สามารถเข้าไปดูบัญชีของบริษัทได้ จึงสอบถามลูก ซึ่งเขาเหมือนจ้างให้หน้าม้ามาบอกว่าแอปฯบัญชีธนาคารของตนมีปัญหา จนมาวันสุดท้าย 27 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ตนบอกกับลูกว่าแม่ไม่มีเงินแล้ว หลังจากนั้นในช่วงเย็นก็ไม่สามารถติดต่อลูกสาวได้อีก จึงไปหาสามีลูกที่บ้าน เขาบอกว่าเลิกกับลูกของตนมาปีกว่าแล้ว จึงทําให้รู้ว่าถูกลูกสาวหลอกสูญเงินรวมกว่า 6 ล้านบาท

ด้านน้องสาวของผู้เสียหายมีศักดิ์เป็นน้าของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า เมื่อวานที่ผ่านมาหลานสาวได้โทรมาหาตนบอกจะขอมอบตัวกับตํารวจ เนื่องจากทราบว่าแม่ไปแจ้งความดําเนินคดีเอาไว้ ซึ่งตนได้ติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตํารวจ แต่ตํารวจอ้างว่าไม่ว่างจึงยังไม่มีการดําเนินการใดๆ กระทั่งวันนี้ได้โทรหาอีกครั้งหลานสาวบอกจะเดินทางมาพูดคุยเพื่อขอเจรจากับแม่

ขณะที่แม่ กล่าวฝากถึงลูกสาวทั้งนํ้าตาว่า ที่ผ่านมาตนทํางานหนักก็เพื่อหาเงินมาให้ลูก และตั้งแต่เปิดหน้าร้านให้ก็ไม่เคยผลประโยชน์ใดๆ รู้เพียงที่ลูกบอกว่าได้กําไรเล็กน้อย ซึ่งตนก็ไว้ใจเพราะคําว่าลูก แต่ทําไมลูกถึงทํากับแม่แบบนี้

ทนายเจส นายณัฐปกรณ์ สุดชา กล่าวเพิ่มเติมว่าเบื้องต้นคดีนี้ทางผู้เสียหายได้แจ้งความดําเนินคดี ในข้อหา “ฉ้อโกง” แต่หากผู้ก่อเหตุเข้ามาเจรจาและทั้งคู่สามารถตกลงได้ก็สามารถถอนแจ้งความได้ อย่างไรก็ตามหากวันนี้ผู้ก่อเหตุไม่มาตามที่บอกก็คงต้องดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เบื้องต้น ตำรวจ จะให้เร่งติดตามลูกสาวตัวแสบมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง