ห้องข่าวภาคเที่ยง - คดี "อาม่าฮวย" ได้ไหม ที่แม่ต้องไปฟ้องลูกสาวที่ยักยอกทรัพย์ แล้วศาลพิพากษาจำคุก 12 ปี มีคดีทำนองนี้อีกแล้ว ที่แม่ต้องเดือดร้อนถูกลูกหลอกให้โอนเงินจนหมดตัว แถมยังเป็นหนี้คนอื่นอีกหลักล้านบาท
ผู้เสียหายเป็นหญิง อายุ 48 ปี ไปร้องขอความเป็นธรรม และขอให้ตำรวจแจ้งความเอาผิดกับ "ส้ม" อายุ 30 ปี ลูกสาวที่เกิดกับสามีคนเก่าของเธอ
"แม่" เล่าให้ฟังแบบนี้ ว่าตนเองจบการศึกษาชั้น ป.6 ทำงานตั้งแต่เป็นคนงานก่อสร้างอยู่ในกรุงเทพฯ จนขยับตัวขึ้นมาเป็นผู้รับเหมาฯ ได้สำเร็จ กระทั่งปี 2564 ลูกสาวมาขอให้ตนเองเปิดหน้าร้าน เพื่อจะทำงานรับเหมาก่อสร้างแบบเต็มรูปแบบ ด้วยความไว้ใจจึงยอมเปิดหน้าร้าน แล้วให้ลูกคอยดูแลบัญชีการเงิน 1 ปี แรกผ่านไปไม่เป็นปัญหา
ปัญหาเริ่มเกิดช่วงปี 2565-2567 ที่ลูกสาว อ้างเหตุผลสารพัดให้โอนเงินเข้าไปบัญชีธนาคารอีกบัญชี เพื่อใช้ในการซื้อขายวัสดุก่อสร้าง ซึ่งตามประสาคนค้าขาย ก็ต้องมีจ่ายเงินสำรองไปเป็นค่าสินค้า เพื่อรอลูกค้าเคลียร์ยอดเงิน ซึ่งลูกก็ใช้ข้ออ้างนี้ขอให้โอนเงินนับร้อยยอด มีตั้งแต่หลักหมื่น จนไปถึงหลักแสนบาท แล้วต่อมาก็เริ่มมีปัญหาว่า เข้าไปตรวจสอบบัญชีธนาคาร บัญชีนี้ไม่ได้ ก็ขอให้ลูกช่วยแก้ปัญหาให้ แต่มารู้เอาทีหลังว่า ลูกไปหาคนมาอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารหลอกว่าบัญชีมีปัญหา
ผ่านมาจนถึง 29 พฤษภาคมที่ผ่านมา ตนเองทนไม่ไหวจะเข้าไปเคลียร์ปัญหากับธนาคารเอง เท่านั้นแหละลูกสาว หายตัวออกจากบ้านไปนับแต่นั้น แล้วเหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ไปแจ้งความกับตำรวจ สน.หนองจอก ก็ทำให้แค่ลงบันทึกประจำวัน ไม่ยอมดำเนินคดีกับลูกสาวให้เสียที จึงต้องมาร้องขอความช่วยเหลือกับตำรวจกองปราบฯ แทน
ระหว่างให้สัมภาษณ์ น้าสาว ก็ได้ติดต่อไปหา "ส้ม" เจรจาว่าให้มาเจอกันที่กองปราบฯ แต่ก็บ่ายเบี่ยง เชื่อว่าไม่น่าจะมาแล้วเช่นกัน จึงตัดใจขอแจ้งความเอาผิดลูกฐานฉ้อโกง แล้วจะกลับไปแจ้งความกับ สน.หนองจอก อีกทีฐานยักยอกทรัพย์
