รวบแล้ว! มือเผาธนาคาร พบมีบัตรรักษาอาการป่วยจิตเวช

View icon 98
วันที่ 28 มิ.ย. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
รวบแล้ว! มือเผาธนาคาร สาขาจันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ถือมีดอยู่ในห้องนอนรอตำรวจมาจับ พบมีบัตรรักษาอาการป่วยจิตเวช

จากกรณี กล้องวงจรปิดหน้าธนาคารแห่งหนึ่ง สาขาจันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะที่หญิงรายหนึ่ง  ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะมีทะเบียนชัดเจน ถือถุงบรรจุของเหลวภายหลังพบว่าคือน้ำมันเชื้อเพลิง นำมาเทหน้าทางเข้าแล้วจุดไฟ ก่อนที่จะลุกลามขึ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นได้หลบหนีไป ขณะที่เจ้าหน้าที่ธนาคารสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่สร้างความเสียหายไปบางส่วน เหตุเกิดเมื่อช่วงสายของวันที่ 26 มิ.ย. 67 (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : โกรธแค้นอะไร? สาวใหญ่ราดน้ำมันจุดไฟเผาหน้าธนาคาร)

ความคืบหน้าล่าสุด วานนี้ (27 มิ.ย. 67) เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ฉวาง นครศรีธรรมราช เข้าสนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ สภ.นาบอน และฝ่ายปกครอง พร้อมหมายศาลจังหวัดทุ่งสง พร้อมหมายค้นไปที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ทุ่งสง อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช เพื่อเข้าจับกุม น.ส.อมรสุข อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดทุ่งสงในคดีวางเพลิงเผาทรัพย์ หลังจากก่อเหตุดังกล่าว

โดยเจ้าหน้าที่พบว่า น.ส.อมรสุข ได้ถือมีดหลบอยู่ในห้องนอนของบ้านหลังดังกล่าว โดยได้ตามญาติมาช่วยพูดคุย และต้องปีนเข้าห้องเพื่อเจรจา แต่ในที่สุดก็สามารถเปิดประตูห้อง ก่อนจะบังคับให้ทิ้งมีดแล้วเข้าควบคุมตัวไว้ โดยที่ผู้ต้องหารายนี้มีสีหน้าเรียบเฉย และไม่พูดหรือแสดงอาการใด ๆ เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวแล้วจึงอ่านหมายจับกุมศาลจังหวัดทุ่งสงให้ฟังแสดงการจับกุมและแจ้งการถูกจับเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ รวมทั้งตรวจสอบชื่อบุคคล ปรากฎว่าผู้ต้องหาไม่ยอมพูดอะไร และยังได้ตรวจยึดเสื้อผ้าที่ใช้ในวันเกิดเหตุ รวมทั้งรถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการกระทำความผิด

ขณะที่ญาติได้ยืนยันว่าเป็นบุคคลบคนเดียวกัน พร้อมทั้งผู้ต้องหารายนี้มีบัตรประจำตัวเป็นผู้ป่วยของโรงพยาบาลสราญรมย์สุราษฎ์ธานี รักษาอาการป่วยทางด้านจิตเวชอยู่ด้วย หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวมายัง สภ.ฉวาง เพื่อทำการสอบสวนในเบื้องต้นโดยให้พนักงานสอบสวนและตำรวจหญิงเข้าเจรจาพูดคุยสอบถามข้อมูล แต่ก็ไม่ยอมพูดอะไรเช่นเดิม ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวเข้าห้องควบคุม

พ.ต.อ.ชาญยุทธ เรืองดิษฐ์ ผู้กำกับการ สภ.ฉวาง นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ติดตามไปจนถึงบ้านพบเบื้องต้นว่ามีอาการผิดปกติทางจิต หลังจากนั้นได้รวบรวมทั้งรวบรวมพยานหลักฐานบุคคล และกล้องวงจรปิดจนกระทั่งได้ออกหมายจับแล้ว จึงย้อนกลับไปจับกุม และส่งไปให้แพทย์ตรวจความผิดปกติอาการทางจิตหรือไม่อย่างไร

อย่างไรก็ตาม พฤติการณ์นั้นพบว่ามีการเตรียมการ และพบว่าผู้ต้องหาไม่ได้เป็นลูกค้า หรือมีภาระใด ๆ กับทางธนาคารมาก่อน ไม่เคยมีมูลเหตุเกี่ยวข้อง