จากกรณี นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี นักศึกษาชั้น ปวช. ปี 1 แผนกช่างอิเล็กทรอนิกส์ วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษกอุดรธานี ได้ชวนเพื่อนรุ่นพี่ อายุ 20 ปี ขี่จักรยานยนต์จากบ้านมาเอากุญแจบ้านกับแม่ที่โรงพยาบาลมะเร็งอุดรธานี พอขับผ่านวิทยาลัยก็ถูกกลุ่มวัยรุ่นชายขี่จักรยานยนต์ซ้อน 3 มาประกบ คนนั่งกลางใช้อาวุธปืนยิงนายเอเข้าแก้มขวากระสุนฝังในลำคอ ทำให้เพื่อนรุ่นพี่ต้องขี่รถหนีตายเข้าไปโรงพยาบาลมะเร็ง เจ้าหน้าที่รีบนำส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ซึ่งคาดว่าเหตุดังกล่าวเป็นการยิงผิดตัว เนื่องจากผู้บาดเจ็บเป็นคนเรียนดี เพิ่งย้ายมาเรียนได้ 2 เดือน เหตุเกิดเวลา 15.40 น. วันที่ 20 มิ.ย. 67 ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (21 มิ.ย. 67) เมื่อเวลา 15.30 น. ที่ผ่านมา พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมด้วย พ.ต.ท.นิธิศ รอดคลองตัน รอง ผกก.สส.สภ.เมืองอุดรธานี และ พ.ต.ท.พิเชฐ ปักเคธาติ สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี แถลงผลจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว 3 คน ประกอบด้วย นายมอส (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี ผู้ขี่ รถจักรยานยนต์ นายบี (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี นักศึกษาชั้น ปวช. ปี 1 แผนกช่างยนต์ วิทยาลัยเทคนิค ใน จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นคนยิง และ นายซี (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี พร้อมของกลางอาวุธปืนปากกาไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก อาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์ 2 กระบอก รถจักรยานยนต์ สีดำขาว ทะเบียน 2กถ 3762 อุดรธานี ซึ่งเป็นยานพาหนะที่ใช้ก่อเหตุ
พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้ลงตรวจพื้นที่เกิดเหตุ พบว่ากล้องวงจรปิดหน้าโรงพยาบาลมะเร็ง ซึ่งมีกล้องวงจรปิดแค่จุดเดียว ผู้บาดเจ็บได้พากันหลบหนีเข้าไปขอความช่วยเหลือ แต่เซิร์ฟเวอร์ไม่บันทึกภาพ ทำให้ต้องสอบสวนพยานบุคคล จนทราบกลุ่มดังกล่าวทะเลาะกันใน TikTok มีการท้าทายกัน กระทั่งเช้าวันนี้จึงนำกำลังไปจับกุม นายมอส นายบี และ นายซี พร้อมของกลางอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวน
ด้าน พ.ต.ท.นิธิศ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนทราบว่า นายบี มือยิงให้การรับสารภาพว่า ได้ใช้อาวุธปืนยิงผู้บาดเจ็บจริง แต่ยิงผิดคน เพราะตั้งใจยิงนายเพื่อนรุ่นพี่ของผู้บาดเจ็บที่เป็นคนขี่รถจักรยานยนต์ สาเหตุเนื่องจากที่ผ่านมา หลังเลิกเรียนก็จะขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านคนเดียว พอขี่รถมาถึงบ้านหนองอีทุย หมู่ 4 ต.ห้วยสามพาด อ.ประจักษ์ศิลปาคม ก็จะโดนเพื่อนรุ่นพี่ของผู้บาดเจ็บเอามีดาบไล่ฟันตนหลายครั้ง โดยจะมีผู้บาดเจ็บอยู่ในกลุ่มด้วย เป็นเหตุให้ต้องทำปืนปากกาเอง และซื้อกระสุนปืนขนาด .38 ซุกซ่อนไว้ใต้เบาะรถ เพื่อเอาไว้ป้องกันตัว
ก่อนเกิดเหตุ นายบี ขี่รถจักรยานยนต์ไปทำบัตรประชาชน แต่รถเกิดยางรั่วที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง เขต ต.โนนสูง อ.เมืองอุดรธานี จึงโทรเรียกให้เพื่อนผู้หญิง รวมทั้งนายมอส และ นายซี มารับที่ปั๊มน้ำมัน แล้วหยิบเอาปืนปากกามาพก โดยให้เพื่อนผู้หญิงขี่รถยางรั่วคนเดียว รถอีกคันนายมอสเป็นคนขับ นายบีนั่งกลาง ส่วนนายซีนั่งซ้อนท้าย และรู้ว่าจะต้องผ่านหน้าวิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษกของคู่อริ จึงระมัดระวังตัว เมื่อขับมาถึงหน้าวิทยาลัยก็พบผู้บาดเจ็บและเพื่อนรุ่นพี่ ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาพอดี นายบีจำเพื่อนรุ่นพี่ของผู้บาดเจ็บได้ จึงให้นายมอสขี่รถไปประกบ แล้วถามว่า “ฟลุคหน้าติ๋มไหม๊” จากนั้นก็ยิงปืนใส่ทันที พอยิงเสร็จก็รีบขี่รถหนี โดยไม่รู้ว่ากระสุนไปถูกผู้บาดเจ็บ กระทั่งมาถูกจับจึงได้รู้ว่ายิงผิดตัว
พ.ต.ท.นิธิศ เผยอีกว่า หลังจากจับกุมผู้ก่อเหตุได้ ตำรวจได้สอบสวนขยายผลพบปืนไทยประดิษฐ์ของนายมอส 1 กระบอก และ นายซี 1 กระบอก จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน และจะได้สอบสวนขยายผลเพื่อตรวจหาอาวุธปืนอีก เบื้องต้นได้แจ้งข้อหานายมอส นายบี และ นายซี ในข้อหา “ร่วมกันพยายามฆ่า, พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต และ มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
อย่างไรก็ตาม นายบี บอกว่า อาวุธปืนตนทำเอง ส่วนกระสุนขนาด .38 ซื้อจากเพื่อน จะเอาไว้ใต้เบาะรถเพื่อป้องกันตัว หลังทราบว่ายิงผิดตัว ก็รู้สึกเสียใจ เพราะตั้งใจยิงเพื่อนรุ่นพี่ของผู้บาดเจ็บ จึงอยากขอโทษผู้บาดเจ็บ ไม่ได้ตั้งใจยิงคนข้างหลัง ซึ่งผู้บาดเจ็บก็อยู่ในกลุ่มเดียวกันกับอริของตน แต่ไม่เคยทำร้ายตน ต่อไปจะตั้งใจเรียน เพราะสงสารพ่อแม่
