“ภูมิธรรม” ยืนยัน ข่าว เตรียมขับพรรคพลังประชารัฐ ออกจากพรรคร่วมรัฐบาล ไม่เป็นความจริง ย้ำยังเหนียวแน่น ทุกคนยังคุยกันและ ทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี
วันนี้ (21 มิ.ย.67)ที่รัฐสภา นายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แกนนำพรรคเพื่อไทย ออกมายืนยัน หลังมีกระแสข่าว ขับพรรคพลังประชารัฐออกจากรัฐบาล ว่า ไม่เป็นความจริง พรรคร่วมรัฐบาลยังเหนียวแน่น เรื่องของพรรคพลังประชารัฐก็ยังไม่มีการพูดคุยในกลุ่มพรรคร่วม มีแต่กระแสอื่นที่จะสร้างความสับสนและสร้างความไม่มั่นใจให้กับประชาชนและต่างประเทศ ซึ่งไม่เป็นผลดี จากการประสานงานกับทุกพรรค และตัวแทนที่เกี่ยวข้องในพรรคร่วมรัฐบาล ทุกคนยังคุยกันเข้าใจ ทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี
ส่วนมีการวิเคราะห์หรือไม่ กระแสข่าวพรรคพลังประชารัฐ ถูกขับออกพรรคร่วมรัฐบาล เกิดใกล้ช่วงพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568 นายภูมิธรรม กล่าวว่า คนที่วิเคราะห์ดีที่สุด คือ สื่อมวลชน เพราะเป็นผู้ที่ได้ข้อมูลมา เรายังไม่เคยได้ยินข้อมูลเหล่านี้ ได้ยินจากสื่อมวลชนเท่านั้น จึงอยากให้สื่อมวลชนวิเคราะห์ และสามารถวิเคราะห์ข้อมูลบนพื้นฐานความจริงได้มากน้อยเพียงใด ย้ำเราไม่เคยมีการคุยกันเรื่องนี้ กับพรรคพลังประชารัฐ แต่ถ้ามีปัญหาก็ต้องถามแล้วว่าจริงหรือไม่ เมื่อวานนี้ (20 มิ.ย.) ได้พบกับ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ก็ยังพูดคุยกันดี คุยเรื่องสนุกสนาน ไม่มีปัญหาอะไร มีเพียงสื่อมวชชนเท่านั้นที่สอบถาม
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านปักธงจะคว่ำ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ว่า เป็นสิทธิของฝ่ายค้านที่จะตัดสินใจ ส่วนตัวมองว่าต้องดูว่า ในงบประมาณเหล่านี้ได้พยายามแก้ปัญหาฉุกเฉินของประชาชน แก้ไขปัญหาที่สั่งสมและค้างมา หากมีประเด็นที่ติดใจได้มีการเสนอความเห็นมาแล้ว บางเรื่องที่ไม่เข้าใจก็ได้มีการชี้แจง การคว่ำร่างกฎหมายงบประมาณก็เป็นผลกระทบที่เสียหาย กับประชาชน เหมือนปีที่ผ่านมากว่างบประมาณจะเข้ามาได้ ก็ช่วงปลายปีงบประมาณแล้ว มันจึงทำให้ทำอะไรได้ไม่ถนัด ส่วนตัวมองว่าเราช่วยกันทำให้งบประมาณผ่านไปด้วยดี เพื่อจะให้เกิดความเชื่อมั่นว่า เราสองฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน แก้วิกฤตประเทศ และฝ่ายค้านก็ยังมีหน้าที่ตรวจสอบงบประมาณได้อีก อันไหนที่เป็นปัญหาและไม่สามารถแก้ไขหรือมีความคลุมเครือท่านสามารถตรวจสอบในฐานะฝ่ายค้านได้อยู่แล้ว แต่หากจะตัดสินใจคว่ำก็ทำได้ ไม่มีปัญหา เพื่อจะเป็นสัญลักษณ์ก็คิดว่าสัญลักษณ์ก็ไม่เท่ากับความร่วมมือที่สร้างความมั่นใจ
