ห้องข่าวภาคเที่ยง - สรุปวันนี้ ตำรวจยังไม่ได้พาตัวลูกเรือทั้ง 8 คน ไปขอศาลฝากขัง จะพาตัวไปพรุ่งนี้ แต่ที่มีเรื่องให้ลุ้นกันต่อ ก็คือเรื่องออกหมายจับตัวบงการใหญ่คดีเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน จะเอี่ยวถึง "เสี่ยโจ้ ปัตตานี" หรือไม่ ตำรวจบอกขอให้รอความชัดเจน แต่ที่แน่ ๆ ยืนยันว่าหมายจับมีมากกว่า 1 คน
ภายหลังตำรวจกองบังคับการปราบปราม รับตัว 8 ผู้ต้องหา ประกอบด้วย ไต้ก๋งเรือ และลูกเรือ ในคดีขโมยของกลางเรือน้ำมัน พร้อมน้ำมันเถื่อนกว่า 300,000 ลิตร หลบหนีไปจากท่าเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี มาสอบสวนต่อที่กองบังคับการปราบปรามเมื่อคืนนี้ ตำรวจก็ลงมือสอบสวนต่อทันที เพื่อขยายผลไปหาตัวผู้บงการใหญ่ โดยจะใช้เวลาวันนี้เต็มวันอีก 1 วัน ก่อนนำตัวทั้ง 8 คน ไปขออำนาจศาลฝากขัง พรุ่งนี้
ขณะที่ พันตำรวจเอก เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยผลการสอบปากคำว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีค่อนข้างมาก
โดยเฉพาะ นายสุนทร, นายเดชา และ นายสมชาย 3 ไต้ก๋งเรือ เนื่องจากถูกจับกุมตัวพร้อมเรือของกลาง จึงต้องยอมรับในข้อเท็จจริง แต่จะเชื่อมโยงไปถึงตัว เสี่ยโจ้ ปัตตานี ได้หรือไม่ ขอให้เป็นเรื่องในสำนวนคดี
การออกหมายจับต้องมีหลักฐาน ซึ่งตำรวจฝ่ายสืบสวนได้นำข้อมูลการพูดคุยทางโทรศัพท์ของ 3 ไต้ก๋งเรือ ไปตรวจสอบเพื่อขยายผลว่าพูดคุยกับใครหรือไม่ จนไปพบบทสนทนาหนึ่งผ่านแช็ตไลน์ ที่เชื่อว่าเป็น เสี่ยโจ้ ปัตตานี
คุยกับตำรวจนายหนึ่ง ตำแหน่งผู้กำกับการ อักษรย่อ น. ซึ่งจากภาพฝั่งซ้ายมือเป็นของตำรวจ ส่วนฝั่งขวามือเป็นของคนที่เชื่อว่าเป็น "เสี่ยโจ้" ซึ่งแช็ตดังกล่าวนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยอมรับไม่สบายใจ หลังตรวจยึดเรือน้ำมันเถื่อนคืนมาได้ จากที่มีหลายฝ่ายสงสัยการทำงานของเจ้าหน้าที่ ที่ได้สั่งการกำชับ พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในการดำเนินการ พร้อมเชิญ พลตำรวจเอก ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ ที่ดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ มาพบในช่วงบ่าย เพื่อสอบถามและกำชับการทำงาน ยอมรับว่าเครือข่ายนี้ใหญ่พอสมควร และหากพบเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้อง ต้องลงโทษ
