โดนคุก! คนละ 25 ปี ผัวเมียสาดน้ำกรดสาว ม.6 เสียโฉม

View icon 246
วันที่ 19 มิ.ย. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ศาลตัดสินจำคุกสองผัวเมีย คนละ 25 ปีชดใช้เงิน 2 ล้าน หลังหิ้วถังสาดน้ำกรด สาว ม.6 จยใบหน้าเสียโฉม หูขาด ตาเกือบบอด จ.บุรีรัมย์

ศาลนางรอง จ.บุรีรัมย์  ตัดสินจำคุกสองผัวเมียสาดน้ำกรดนักเรียนหญิง ม.4 เสียโฉม หูขาด ตาหวิดบอดเมื่อ 10 เดือนก่อน จำคุกคนละ 25 ปี ผัวมีคดีเดิมโดนเพิ่มอีก 10 ปี พร้อมชดใช้เงิน 2,006,000 บาท  แม่เผยลูกสาวต้องตกอยู่ในสภาพเหมือนตายทั้งเป็นร่วมปี  ผู้ก่อเหตุไม่เคยเยียวยาแม้แต่บาทเดียว ขอบคุณศาล  ตร. อัยการ  ทนายความที่ช่วยเหลือจนลูกสาวได้รับความยุติธรรม  แต่กังวลคู่กรณีจะไม่ชดใช้ค่าเสียหาย

จากกรณีที่นายเจษฎาภรณ์  อายุ 21 ปี และ น.ส.อังคณา อายุ 25 ปี สองสามีภรรยา สวมชุดดำและไอ้โม่งปิดบังใบหน้า ถือถังบรรจุน้ำกรดบุกเข้าไปสาดใส่ น.ส.ณัฐติกานต์ อายุ 18 ปี นักเรียนชั้น ม.6 ขณะนั่งกินข้าวอยู่กับยายและน้าชาย ภายในร้านอาหารตามสั่งในเขตเทศบาลนางรอง  อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์  เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 27 ส.ค. 66  ทำให้น.ส.ณัฐติกานต์ โดนน้ำกรดทั้งที่ใบหน้า ดวงตา หน้าอก ไหลอาบลำตัวสภาพผิวหนังไหม้ เสื้อผ้าขาดหลุดลุ่ย

ส่วนยายและน้าชายที่นั่งกินข้าวด้วยกันก็โดนน้ำกรดกระเด็นใส่ มีรอยไหม้ตามใบหน้า ลำคอ ลำตัว แขนและขา แต่ไม่สาหัสเท่าน.ส.ณัฐติกานต์ ที่ใบหน้าเสียโฉม หูซ้ายขาด และตาซ้ายเกือบบอด สภาพเหมือนตายทั้งเป็นต้องรักษาตัวที่ รพ.นานกว่า 4 เดือน ส่วนมูลเหตุจูงใจคาดว่า สามีภรรยาคู่นี้ แค้นที่เคยถูกแจ้งความฐานพรากผู้เยาว์ และทำให้เสียทรัพย์  ถึงแม้จะมีการไกล่เกลี่ยชดใช้ค่าเสียหายและคดีจบกันไปแล้ว

หลังก่อเหตุทั้งสองสามีถูกตำรวจจับกุมได้ ขณะหนีไปซ่อนตัวอยู่สวนมะม่วงที่ จ.อุดรธานี หลังพบพยานหลักฐานทั้งการเช่ารถยนต์ที่ใช้ประกอบเหตุ ภาพจากกล้องวงจรปิดตามจุดต่าง ๆ ที่สามารถยืนยันได้ว่าทั้งสองร่วมในการก่อเหตุสาดน้ำกรด น.ส.ณัฐติกานต์ ซึ่งคดีนี้พนักงานอัยการจังหวัดนางรอง ได้เป็นโจทย์ยื่นฟ้องต่อศาล ในข้อกล่าวหา “พยายามฆ่า” จากที่ตอนแรกพนักงานสอบสวนแจ้งเพียงข้อหา “ทำร้ายร่างกายให้ได้รับอันตรายสาหัส” แต่อัยการเห็นว่าพฤติการณ์ที่จำเลยทั้งสองทำ ด้วยการนำน้ำกรดถึง 2 ถังไปสาดใส่น้อง อาจทำให้ได้รับอันตรายแก่ชีวิต จึงให้สอบเพิ่มเติมและแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม คือ “พยายามฆ่า โดยไตร่ตรอง”

ล่าสุด นายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋นบุรีรัมย์  ได้ออกมาเปิดเผยถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีดังกล่าวว่า  เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 67  ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดนางรอง  ได้พิพากษาตัดสินลงโทษสองสามีภรรยา ที่เป็นจำเลยในคดีนี้ ในอัตราโทษสูงสุดคือประหารชีวิต เพราะกระทำผิดฐานพยายามฆ่า และไตร่ตรอง แต่ความผิดยังไม่สำเร็จ จึงเหลือจำคุกตลอด  ซึ่งจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพจึงตัดสินลงโทษเหลือจำคุกคนละ 25 ปี  แต่ผู้เป็นสามีเคยมีคำพิพากษาก่อนหน้านี้เรื่องคดีพรากผู้เยาว์ด้วย จึงเพิ่มโทษสามีอีก 10 ปี รวมเป็น 35 ปี  ส่วนคดีแพ่งก็ให้ชดใช้เงินอีก 2,006,000 บาท    

ในฐานะทนายความที่ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือน้อง ก็ขอชื่นชมและขอบคุณกระบวนการยุติธรรมตั้งแต่ชั้นตำรวจที่ติดตามจับกุมได้เร็ว  ทีแรกพนักงานสอบสวนอาจจะกล่าวหาพียงทำร้ายร่างกายให้ได้รับอันตรายสาหัส  แต่อัยการเห็นว่าการกระทำและผลที่ได้รับมันเกินกว่านั้นกระทั่งมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเป็นพยายามฆ่า ซึ่งก็ได้ต่อสู้ในชั้นศาลมาร่วมปี ก็ถือว่าวันนี้น้องได้รับความยุติธรรม แต่ก็ยังกังวลว่า หากจำเลยไม่ยอมชดใช้เงินค่าเสียหาย 2,006,000 บาทตามคำพิพากษา ก็จะได้แค่กระดาษหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาทางจำเลยทั้งสองไม่เคยเยียวยาผู้เสียหายแม้แต่บาทเดียว และไม่เคยเอาเงินมาวางศาลเพื่อทุเลาผลที่กระทำผิดเลย ก็ต้องทำการสืบทรัพย์ว่าทั้งคู่จะมีทรัพย์สินเป็นของตัวเองที่จะทำการยึดมาชดใช้ให้ผู้เสียหายได้หรือไม่ แต่มองว่าตามหลักความเป็นมนุษย์ด้วยกันก็น่าจะเยียวยาบ้าง

ด้าน น.ส.จิราวรรณ แม่ของน.ส.ณัฐติกานต์ บอกว่า พอใจในคำตัดสินของศาลที่ท่านเมตตาให้ความยุติธรรมกับน้อง แต่แม่ก็ยังกังวลว่า ผู้กระทำผิดทั้งคู่จะไม่จ่ายเงินเยียวยาให้ตามคำพิพากษาศาล เพราะที่ผ่านมาเขาไม่เคยเยียวยาเลยแม้แต่บาทเดียว ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุน้องก็เหมือนตกนรกทั้งเป็น แม้ว่าปัจจุบันสภาพจิตใจ และร่างกายจะเริ่มดีขึ้นบ้างช่วยเหลือตัวเองได้ แต่ก็ยังไม่สามารถใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติ

"ทุกวันนี้ยังต้องไปหาหมอตามนัด ทั้งที่ รพ.บุรีรัมย์ เพื่อทำการรักษาโดยเฉพาะดวงตาที่มองไม่ชัด  ใบหูที่ขาดและรูหูปิดได้ยินไม่ชัด ทั้งต้องเดินทางไปคลินิกศัลยกรรม “ธีรพรคลินิก”  ที่กรุงเทพฯ เป็นระยะ เพื่อประเมินสภาพใบหน้าและรักษาผังผืด เพราะทางคลินิก โดยคุณหมอ ชลธิศ จะทำศัลยกรรมให้กับน้องฟรี ก็ขอบคุณทุกคนทั้ง ตำรวจ อัยการ ทนายความ และศาลที่ให้ความเป็นธรรม และขอบคุณคุณหมอที่ดูแลรักษาน้องเป็นอย่างดี  ก็หวังว่าคู่กรณีจะเห็นใจและนึกถึงความเป็นเพื่อนมนุษย์ดูแลเยียวยาน้องบ้าง"