รวบหนุ่มวัย 29 ยิงหมาแม่ลูกอ่อนเอาไปย่างกิน อ้างชอบเข้ามัากินไก่

View icon 149
วันที่ 19 มิ.ย. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ตำรวจบุกรวบ หนุ่ม วัย 29 ปี ใช้ปืนยิงหมาแม่ลูกอ่อนแล้วนำไปย่างกิน อ้างโมโหชอบเข้ามากินไก่ของตัวเองหลายครั้ง จ.เชียงใหม่

เมื่อเวลา 16.30 น. วานนี้ (18 มิ.ย. 67) ร.ตอ.สิทธิกร  หล่อประดิษฐ์ พนักงานสอบสวน สภ.แม่แตงพร้อมชุดสืบสวน สภ.แม่แตง เข้าจับกุม นายจายอ่องทุน ชาวไทใหญ่ อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาได้ภายในสวนหมู่บ้านต้นขาม ต.กึ๊ดช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ หลังได้รับแจ้งจากมูลนิธิวอชด็อกไทยแลนด์ ว่า นายจายอ่องทุน ใช้อาวุธปืนยิงเจ้าแดง สุนัขแม่ลูกอ่อน อายุ 10 ปี แล้วนำไปย่างกิน
  
โดยนายอ่องทุนให้การรับสารภาพว่า ได้ลงมือก่อเหตุจริง โดยอ้างว่า สุนัขตัวดังกล่าว ซึ่งเป็นของนายณรงค์ คนงานในมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม ได้ข้ามรั้วมายังฝังสวนที่ตนเองทำงาน และได้กินไก่ที่ตนเองเลี้ยง ที่ผ่านมาก็เคยไปบอกเจ้าของหลายครั้งแล้ว แต่มาครั้งนี้เจ้าแดงมากัดไก่ของตนเองอีก จึงเกิดความโมโหและใช้อาวุธปืนยิงตาย ก่อนจะลากไปชำแหละและย่างกิน 

ส่วนซากนั้นได้นำไปฝังดินไว้ในสวน ตำรวจจึงนำตัวนายจายอ่องทุน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพชี้จุดที่ยิงเจ้าแดง รวมถึงจุดที่ชำแหละและฝั งก่อนจะควบคุมตัวไปดำเนินคดีที่ สภ.แม่แตง
   
ด้าน น.ส.ภูริตา วัฒนศักดิ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและหัวหน้าฝ่ายกฎหมายของมูลนิธิวอชด็อกไทยแลนด์ กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์นี้ทางมูลนิธิฯ ได้รับแจ้งจากนายณรงค์ ว่า สุนัขของตัวเองหายไปตั้งแต่เช้า ทางมูลนิธิฯ จึงส่งคนไปช่วยตามหา เพราะในปัจจุบันหมาในพื้นที่หมู่บ้านนี้ ทางมูลนิธิฯ ของเราไปฉีดวัคซีนกำจัดเห็บและทำหมันให้กับทุกตัวในหมู่บ้าน

แต่เนื่องจากเจ้าแดง มีปัญหาสุขภาพเป็นโรคเลือดพยาธิในเม็ดเลือด จึงยังรอการทำหมัน ทางเราจึงให้ยากับเจ้าของสุนัขไ ปและทางเจ้าหน้าที่เราก็ไปเยี่ยมตรวจสุขภาพตลอดเวลา และในวันนี้เมื่อสุนัขหายไปทุกคนจึงไปตามหาในหมู่บ้านและพื้นที่ใกล้เคียง จนมีชาวบ้านมาบอกว่า ได้ยินเสียงปืนและได้กลิ่นสุนัขย่าง จึงตามไปในพื้นที่ที่ถูกแจ้งมา พบหลุมที่เพิ่งขุดใหม่ จึงขุดมาดูก็พบซากของสุนัขตัวดังกล่าวในหลุม และผู้ก่อเหตุก็ยอมรับว่าได้ฆ่าจริง ทางมูลนิธิฯ จึงได้เข้าแจ้งความเอาผิด
  
เบื้องต้น ตำรวจได้ตั้งข้อหาทารุณกรรมสัตว์ ,มีและพกอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาติและทำให้เสียทรัพย์ นอกจากนี้กำลังตรวจสอบว่า ผู้ต้องหาเข้ามาทำงานในประเทศไทยถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และจะขยายผลว่ามีบุคคลอื่นร่วมก่อเหตุหรือไม่