เผยวินาทีเรือน้ำมันเถื่อน 3 ลำ กลับถึงไทย

View icon 101
วันที่ 18 มิ.ย. 2567
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - เรือน้ำมันเถื่อน 3 ลำ บรรทุกน้ำมันของกลางกว่า 300,000 ลิตร ก็กลับถึงไทย และเข้าเทียบท่าของตำรวจน้ำ จังหวัดสงขลา แล้ว หลังล่องหนหายไปพร้อมกับลูกเรือ ซึ่ง พฐ. ก็เก็บหลักฐานทั้งคืน และมีข้อมูลสุดช็อก หนึ่งในเรือทั้ง 3 ลำ น้ำมันของกลางเหลือเพียงก้นถัง แถมยังพยายามเปลี่ยนสภาพเรือตบตาเจ้าหน้าที่

ภาพเรือทั้ง 3 ลำ ประกอบด้วย เรือ เจ.พี., เรือซีฮอร์ส หรือ เรือกำไรเงิน และเรือดาวรุ่ง ที่แล่นเข้าเทียบท่าเรือ กองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ จังหวัดสงขลา พร้อมลูกเรือที่กลับมาด้วยรวม 8 คน ที่เหลือยังอยู่ระหว่างติดตามตัวกลับมา

ซึ่งหลบหนีหายไปขณะอยู่ในความดูแลของตำรวจน้ำ ที่บริเวณท่าเทียบเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี และไปพบลอยอยู่ในน่านน้ำสากล ระหว่างไทยกับมาเลเซีย ก่อนตำรวจจะไปควบคุมกลับมาดำเนินคดี

พลตำรวจตรี พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ เผยเส้นทางการหลบหนีของเรือทั้ง 3 ลำ ว่า กลุ่มผู้ต้องหาได้นำเรือไปซ่อน และพยายามเปลี่ยนสีเรือ และรูปพรรณสัณฐาน ไม่ให้โดนจับกุม สะท้อนว่า ผู้ต้องหา จะนำเรือกลับมาใช้อีก

อาทิ เรือกำไลเงิน ได้เปลี่ยนสีพื้นเรือจากเดิมสีแดงเป็นสีเขียว แต่เก็บงานไม่ละเอียด คาดว่าน่าจะรีบ เพราะถูกกดดันจากเจ้าหน้าที่ ส่วนน้ำมันในเรือทั้งหมดก็นำไปขายบริเวณน่านน้ำสากล ทำให้น้ำมันของกลางที่ตรวจค้นเรือทั้ง 3 ลำ จากกว่า 300,000 ลิตร ที่แม้ยังระบุปริมาณที่หายไปไม่ได้ชัดเจน แต่บางลำ เช่น เรือกำไลเงิน ปริมาณน้ำมันเหลืออยู่เพียงก้นถัง ประมาณ 1 คืบ เท่านั้น จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไว้ เพื่อสอบปากคำ

และเมื่อคืน (17 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน หรือ พฐ. ก็เข้าเก็บหลักฐาน เช่น รอยนิ้วมือ และ DNA ของลูกเรือทั้งหมดว่าตรงกับผู้หลบหนีหรือไม่

อย่างไรก็ตาม การเอาผิดผู้ต้องหากลุ่มนี้ โดยเฉพาะตัวการใหญ่ ที่ตำรวจพบข้อมูลว่าน่าจะมีนายทุนมากกว่า 1 คน อยู่เบื้องหลัง รวมทั้งขั้นตอนดำเนินคดีจะแบ่งออกอย่างไรบ้าง ติดตามใน "สนามข่าว 7 สี" ที่จะรายงานเจาะลึก ย่อยข้อมูลออกให้เห็นภาพทีละประเด็นต่อไป