ห้องข่าวภาคเที่ยง - ความคืบหน้าเหตุบั้งไฟระเบิดขณะจุดขึ้นท้องฟ้า ทำให้มีผู้บาดเจ็บระนาว ที่จังหวัดร้อยเอ็ด เมื่อวาน ล่าสุดเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบบริเวณฐานบั้งไฟแสน เพื่อเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ
เป็นภาพนาทีชีวิต ที่บั้งไฟแสน หลุดออกจากฐาน ไม่ขึ้นไปบนฟ้า แต่กลับพุ่งไปที่กลุ่มชาวบ้านที่กำลังดูบั้งไฟ บริเวณหลังวัดพระธาตุอุปมุง อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด แล้วเกิดระเบิดขึ้น ทำให้ชาวบ้านวิ่งหนีไม่ทัน ได้รับบาดเจ็บถึง 38 คน เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ต้องเข้าช่วยเหลือ เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นช่วงเย็นวานนี้ (16 มิ.ย.)
ล่าสุดเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบบริเวณฐานจุดบั้งไฟ พบเศษของบั้งไฟแสน แตกกระจัดกระจาย และพบชิ้นส่วนของดินปืนที่อัดภายในบั้งไฟจำนวนมาก
นายบุญวาด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 เล่าว่า บั้งไฟที่ระเบิด มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 5 นิ้ว ก่อนจุดได้ประกาศให้ชาวบ้านถอยออกมาในระยะปลอดภัย แต่ก็มีชาวบ้านบางส่วนที่ฝ่าแนวกั้นเข้าไป โดยไม่ฟังคำเตือนของเจ้าหน้าที่ ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างตรวจสอบ
เบื้องต้น ได้ประสานไปยังบริษัทประกันภัยให้เข้ามาตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เพื่อเยียวยาตามข้อตกลงของการประกันภัย ซึ่งมีวงเงินประมาณ 1 ล้านบาท
ด้านคดี ตำรวจ สภ.โพนทอง เชิญตัวเจ้าของค่ายบั้งไฟมาสอบปากคำเพิ่มเติมแล้ว พร้อมแจ้งให้ชาวบ้านผู้เสียหาย เข้ามาแจ้งความ เพื่อรวบรวมหลักฐานดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สำหรับ ผู้มีบั้งไฟไว้ในครอบครอง ต้องให้นายทะเบียนประจำอำเภอออกใบอนุญาต 5 ป. จึงจะครอบครองและผลิตบั้งไฟได้ โดยกรมการปกครอง อนุญาตเฉพาะช่วงฤดูกาลบั้งไฟเท่านั้น เพื่อคงไว้ซึ่งประเพณีอันดีงาม และห่างจากชุมชน ไม่น้อยกว่า 100 เมตร ต้องไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น โดยจะต้องมีห้วงเวลาในการจุดคือ 09.00-17.00 น. หากนอกเหนือฤดูกาลถือว่าผิดกฎหมาย ที่ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
