ข้าวโพดหายจากไปตลาด ต้นทุนเลี้ยงหมูพุ่ง เกษตรกรจี้ตรวจสต็อก

View icon 60
วันที่ 13 มิ.ย. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เกษตรกรเดือดร้อน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ออกไปจากตลาด ทำต้นทุนเลี้ยงหมูแพงขึ้นทุกวัน สวนทางราคารับซื้อเนื้อหมู แก้ไม่ได้คงต้องพักเล้ายาว

วันนี้ (13 มิ.ย.67) นางยุพิณ หลิ่มเกื้อ เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู ใน อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้หาข้าวโพดมาผสมอาหารหมูได้ยาก และแม้จะหาได้ก็มีราคาแพงมาก จนทำให้ต้นทุนการเลี้ยงสูงขึ้นมาก ตนและเพื่อนเกษตรกรอีกหลายคนต่างก็เผชิญปัญหาเดียวกันนี้โดยถ้วนหน้า ไม่เข้าใจข้าวโพดหายไปไหน ร้องขอภาครัฐช่วยแก้ปัญหาด่วน เพราะลำพังการเลี้ยงหมูก็ลำบากมากอยู่แล้ว เจอทั้งหมูเถื่อน และราคาขายที่ต่ำกว่าต้นทุนการเลี้ยง ซึ่งต้นทุนหมู กก.ละ 80-82 บาท แต่ขายได้แค่ กก.ละ 68-72 บาท ก็ว่าแย่แล้ว ยังต้องมาเจอค่าข้าวโพดทำต้นทุนสูงขึ้นอีก

“ไม่รู้ข้าวโพดหายไปไหนหมดตลาด ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ คงต้องเลี้ยงหมูรุ่นนี้เป็นรุ่นสุดท้าย ก่อนพักเล้ายาว" นางยุพิณกล่าว พร้อมทั้งขอร้องให้หน่วยงานรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแล ช่วยตรวจสอบสต็อกข้าวโพดทั่วประเทศอย่างเร่งด่วน เพื่อตามหาข้าวโพด และแก้ปัญหาให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ ก่อนต้องยกธงขาวยอมแพ้ เลิกเลี้ยงกันหมด

ทั้งนี้ ราคาข้าวโพดปัจจุบันอยู่ที่ กก.ละ 12 บาท สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกวัน จากเดือนที่แล้วที่ราคา กก.ละ 10.30 บาท เพิ่มขึ้นถึง กก.ละ 1.70 บาท นับเป็นต้นทุนสำคัญในการเลี้ยงหมู เนื่องจากสัดส่วนการใช้ข้าวโพดในการผสมอาหารสัตว์นั้นเป็นสัดส่วนที่มากที่สุดราว 30-40% การที่ข้าวโพดขาดตลาดและมีราคาแพงจึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อการเลี้ยงสัตว์

"นี่ขนาดมาตรการให้ซื้อเฉพาะข้าวโพดที่ไม่ผ่านการเผาตอ ยังไม่ถูกบังคับใช้ ยังหาข้าวโพดยากขนาดนี้ เมื่อไหร่มีผลขึ้นมา จะตามหาข้าวโพดมาตรฐาน หรือจะหาวัตถุดิบอื่นทดแทนกันให้พอใช้ได้อย่างไร" นางยุพิณกล่าวทิ้งท้าย

จากความเดือดร้อนดังกล่าว กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรรายย่อย จ.ราชบุรี จะเข้ายื่นหนังสือขอความช่วยเหลือจากภาครัฐ ที่กระทรวงพาณิชย์ในวันพรุ่งนี้ (14 มิ.ย.67)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง