ตั้งกรรมการสอบ ระดมค้นหาเรือของกลางน้ำมันเถื่อน 3 ลำ หายไปจากการควบคุม

View icon 233
วันที่ 12 มิ.ย. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เรือของกลางในคดีน้ำมันเถื่อนแล่นหายไป 3 ลำ ระดมค้นหาทั้งทางน้ำและทางอากาศยังหาไม่พบ สั่งตั้งกรรมการสอบ บช.ก. ส่ง “รองเต่า” เป็นหัวหน้าชุดลงพื้นที่ 

ความคืบหน้ากรณีเรือของกลางในคดีน้ำมันเถื่อนแล่นหายไป 3 ลำ ล่าสุด ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ชี้แจงว่า วันนี้ (12 มิ.ย. 67) ได้รับแจ้งจากสถานีตำรวจน้ำสัตหีบ ว่าเจ้าหน้าที่ตรวจไม่พบเรือของกลาง จำนวน 3 ลำ ในคดีอาญาเลขที่ 102/2567 ลงวันที่ 20 มี.ค. 67 โดยมีข้อเท็จจริงเบื้องต้นดังนี้

เรือของกลางในคดีดังกล่าวมี จำนวน 5 ลำ ซึ่งพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามคดีอาชากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้ร่วมกันดำเนินการสืบสวนจับกุม และยึดไว้เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 67 และส่งมอบหมายให้สถานีตำรวจน้ำสัตหีบ เป็นหน่วยเก็บรักษาของกลาง ณ ท่าเทียบเรือสัตหีบ ตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค. 67 เป็นต้นมา

ในระหว่างการเก็บรักษาของกลาง ได้สั่งการห้าถ่นีตำรวจน้ำสัตหีบจัดเวรยามดูแลของกลางให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย 24 ชม. และรายงานให้ทราบเป็นประจำทุกวันและให้ระมัดระวังสถานการณ์คลื่นลมแรง และน้ำเข้าเรือที่อาจทำให้ของกลางเกิดความเสียหาย จึงจำเป็นต้องมีคนเรืออยู่ประจำเครื่องเรือแต่ละลำอยู่ตลอดเวลาเพื่อไม่ให้เรือเกิดความเสียหาย

ต่อมาวันที่ 9 มิ.ย. 67 เวลาประมาณ 18.00 น. มีรายงานสภาพอากาศคลื่นลมแรง ทะเลมีคลื่นสูง สถานีตำรวจน้ำสัตหีบได้สั่งการให้เรือของกลางจำนวน 5 ลำ ที่มีน้ำหนักมากออกลอยลำ จอดทอดสมอห่างจากสะพานท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบไประยะ 100 ม. เพื่อลดผลกระทบจากลักษณะอากาศ ซึ่งอาจทำให้เรือของกลางได้รับความเสียหาย โดยวานนี้ (11มิ.ย.67) เวลา 20.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าเวรยังมองเห็นเรือเปิดไฟ แต่ต่อมาช่วงเวลา 22.00 น. เรือทั้งหมดดับไฟ

กระทั่งเช้าวันนี้ (12 มิ.ย.67) เวลาประมาณ 06.00 น. เวรยามพบว่าเรือของกลาง จอดทอดสมอห่างจากสะพานท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบไประยะ 100 ม. เหลืออยู่ 2 ลำ จากเรือทั้งหมดที่จอดรวมกันอยู่ 5 ลำ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทันที และได้มีคำสั่งให้ช่วยกันสกัดกั้นเรือของกลาง ตรวจสอบทั้งทางอากาศและทางน้ำ แต่ยังไม่พบเรือที่หายไป ขณะนี้ได้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง พร้อมแจ้งความร้องทุกข์แล้ว ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มอบหมายให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เป็นหัวหน้าคณะฯ เพื่อตรวจสอบกรณีที่เกิดขึ้น