บุกรวบอดีต จนท.ฝ่ายสินเชื่อ โกงเนียนเอาเงินไปใช้หนี้พนันบอล

View icon 285
วันที่ 11 มิ.ย. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ปปป. บุกรวบอดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสฝ่ายสินเชื่อธนาคาร โกงเนียนเปลี่ยนแปลงเอกสารซื้อขายรถยนต์ เอาเงินไปใช้หนี้พนันบอล เสียหายทั้งคนซื้อและเจ้าของเต็นท์รถ หนีซุกเมืองพิษณุโลก ยืมบัตรเครดิตเพื่อนมารูดใช้จนเกินวงเงิน ต้องเปลี่ยนชื่อนามสกุล

วันนี้ (11 มิ.ย.67) ตำรวจ ปปป. นำโดย พ.ต.อ. ศานุวงษ์ คงคาอินทร์ ผกก.4 บก.ปปป. ได้รับการประสานจาก นายสุภาพ ศิริ ผอ.สำนักงานป้องกันและปราบปรามทุจริตในภาครัฐ เขต 6 ให้จับตัวผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางที่ จ.179/2566 ลงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ในข้อหา “เป็นพนักงานมีหน้าที่ ทำ จัดการ ใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่องค์การ และเป็นพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502

ผู้ต้องหาเป็นอดีตเจ้าหน้าที่อาวุโสของลีสซิงธนาคารชื่อดังแห่งหนึ่ง ร่วมกับเพื่อนที่ทำเต็นท์รถ ทำเอกสารปลอม แก้ไขสัญญา โดยดึงเอาเอกสารจากเต็นท์รถยนต์อื่น ๆ ออก เปลี่ยนเป็นของเพื่อนตัวเองแทนเพื่อให้ได้ค่าคอมมิชชันและเงินอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง รวบรวมจนขอสินเชื่อและได้รับอนุมัติแล้ว จึงเอาเงินส่วนต่างไปใช้ส่วนตัว สร้างความเสียหายนับล้านบาท แล้วหลบหนีหมายจับ

ต่อมาสืบทราบว่า ผู้ต้องหาหลบหนีมากบดานอยู่กับแฟนใหม่ที่จังหวัดพิษณุโลก ไม่ได้ทำงาน จึงได้ติดตามจนไปถึงลานจอดรถหน้าร้านสะดวกซื้อ ตำบลท่าโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก และแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่พร้อมแสดงหมายจับ คุมวส่งศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อดำเนินคดี

ผู้ต้องหาให้การเบื้องต้นว่า เคยเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งหนึ่งนาน 10 ปี อยู่ในหน้าที่สินเชื่อรถยนต์มาโดยตลอด จนเกิดความเชี่ยวชาญด้านการเงินการตลาด พอทราบช่องทางในการทำทุจริต จากนั้นย้ายมาอยู่ธนาคารสีฟ้า ช่วงนั้นติดหนี้พนันบอลประกอบกับครอบครัวมีปัญหา จำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมาก จึงปลอมเอกสารเพื่อเอาเงินจากธนาคารไปใช้หนี้ จนถูกไล่ออกจากธนาคาร และที่ผ่านมาเคยติดคุกมาแล้ว 3 ปี ตนเคยต้องยืมบัตรเครดิตของเพื่อนมาใช้จนเกินวงเงินแล้วหนีไม่จ่าย ต้องเปลี่ยนชื่อนามสกุลมาจนถึงทุกวันนี้

บก.ปปป. ขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวังในการมอบเอกสารให้กับผู้ใดก็ตาม  จะต้องมีการลงรายละเอียดกำกับว่าจะนำไปใช้ในเรื่องใด เพราะหากเอกสารดังกล่าวไปตกอยู่ในมือของอาชญากรที่มีความเชี่ยวชาญ ท่านอาจจะตกเป็นผู้ต้องหาเสียเองก็ได้ ซึ่งในกรณีนี้เกิดความเสียหาย เกิดผลกระทบต่อประชาชนและผู้ประกอบกิจการเต็นท์รถเป็นอย่างมาก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง