ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ช็อกทั้งหมู่บ้าน กรณีคุณตาวัย 72 ปี หายหน้าไปหลายวัน พอไปส่องดู พบนอนอยู่กลางบ้าน ธาตุแตก ส่งกลิ่นเหม็นเน่าตลบ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่มาเก็บศพ แต่ขณะกำลังห่อผ้าขาว จู่ ๆ คุณตาฟื้น ราวปาฏิหาริย์
ช็อกทั้งหมู่บ้าน! ตา 72 ปี ตายแล้วฟื้น
เมื่อวานนี้ (4 มิ.ย.) ขณะที่ นายวีระพล รักเสมอวงศ์ แอดมินเพจบ้านดุงอัพเดต กำลังไลฟ์สด หลังได้รับแจ้งจาก ชาวบ้านคำบอน ตำบลนาคำ อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี ว่ามีคนเสียชีวิตในบ้านหลังหนึ่ง โดยชาวบ้าน บอกว่า ตายมาแล้ว 3 วัน เพราะมีกลิ่นเน่าเหม็นออกมาจากตัวบ้าน ขอให้มาช่วยเก็บศพด้วย แต่ผลปรากฏว่า ขณะที่ นายวีระพล กำลังจะนำผ้าขาวคลุมร่าง นายคอนสาร หรือ ตาหอก อายุ 72 ปี เกิดเหตุไม่คาดฝัน คือ ได้เหลือบไปเห็น ตาหอก อ้าปากหายใจอยู่ จึงรีบวางโทรศัพท์และร้องตะโกน บอกว่า "ยังไม่ตาย ๆ" งานนี้ทำเอาชาวบ้านที่มามุงดูเหตุการณ์ ต่างพากันทั้งตกใจ ทั้งดีใจส่งเสียงร้องลั่นบ้าน
ลงพื้นที่บ้านน้องชายกำลังทำความสะอาด
ล่าสุด ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังเกิดเหตุอีกครั้ง พบ นายประจง โสสุด อายุ 56 ปี น้องชายตาหอก กำลังทำความสะอาดบ้าน ในจุดที่ ตาหอก นอนจมกองเลือด กองปัสสาวะ พร้อมบอกว่า พี่ชายอยู่บ้านหลังนี้คนเดียว ส่วนภรรยาและลูก ๆ อยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง โดยพี่ชาย มีโรคประจำตัว เป็นเบาหวาน และเก๊า ด้าน นางน้อย แม่ค้า แจ้งว่า ทุก ๆ เช้า ตาหอก จะต้องออกมาซื้อกาแฟ แต่ครั้งนี้หายหน้าไปนานถึง 3 วัน จึงพากันไปส่องดู ก็ถึงกับผงะ เมื่อเห็น ตาหอก นอนธาตุแตก อยู่กลางบ้าน ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว จึงคิดว่าเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งกู้ภัยให้มารับศพ แต่กลับเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น ยอมรับว่า กลัว แต่ก็ดีใจที่ ตาหอก ยังไม่เสียชีวิต
ล่าสุด วันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชบ้านดุง โดยแพทย์ ระบุว่าตอนนี้ผู้ป่วยอาการปลอดภัยแล้ว ขณะเดียวกันอดีตภรรยาและลูกสาวได้บินด่วนจากประเทศสิงคโปร์มาถึงเมื่อเช้านี้เพื่อดูอาการ และได้เดินทางเข้าพบ นายหอก ซึ่งอยู่ในความดูแลของแพทย์ อาการโดยรวมปลอดภัยแล้ว ซึ่ง นายหอก พูดโต้ตอบกับลูกและอดีตภรรยาได้ นายหอก มีโรคประจำตัวเบาหวาน และโรคเก๊า ทำให้มือและขาบวม เมื่อชาวบ้านส่งไปดูเห็นนึกว่าตายขึ้นอืดภายในบ้าน อาจจะเกิดจากโรคเก๊า
นางบัวเรียน มาศงามเมือง หรือ แม่ป้อม อายุ 67 ปี อดีตภรรยา เปิดเผยกับนักข่าวว่า ตนเองได้เลิกกับสามีคนนี้ไปหลายปีแล้ว ก็ไปอยู่กับลูกที่กรุงเทพฯ แต่ก็ยังห่วงอดีตสามีอยู่ หลังรู้ข่าวก็รีบเดินทางมาจากกรุงเทพฯ เพื่อมาเยี่ยม ส่วนลูกสาวที่ทำงานอยู่ประเทศสิงคโปร์ก็รีบบินด่วนมาเยี่ยมพ่อเช่นกัน ก็ดีใจที่อดีตสามีไม่ตาย หรือ อาจจะตายไปแล้วฟื้นคืนมา ฟื้นมาก็ดีแล้ว ถือว่าปาฏิหาริย์ คนเรายังไม่ถึงคราวตาย เมื่อ 20 ปี อดีตสามีก็เคยรอดตายมาแล้วครั้งหนึ่ง เชื่อบุญบารมีของปู่ศรีสุทโธ และย่าประทุมมาที่นับถือท่านคุ้มครองรักษาให้ สงสารอดีตสามี เพราะอยู่บ้านคนเดียวที่ลูกสาวสร้างเอาไว้ให้อยู่
อ.อ๊อด แจง ตายแล้วฟื้นเป็นไปไม่ได้
เรื่องนี้ รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ "อ.อ๊อด" อาจารย์ นักวิชาการสาขาเคมีอินทรีย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ระบุว่า การที่คนตายแล้วฟื้นเป็นไปไม่ได้เลย ทางการแพทย์ได้ให้ข้อมูลไว้ว่า โอกาสของการตายแล้วฟื้นเป็นไปได้แทบจะศูนย์เปอร์เซ็นต์ เพราะโดยปกติแพทย์จะลงความเห็นว่าผู้ใดเสียชีวิตนั้น ต้องรอเวลาถึง 6 ชั่วโมง และจะมีการตรวจหลายขั้นตอน
นอกจากนี้ต้องตรวจด้วยเครื่องวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจจนมั่นใจว่าคน ๆ นั้นเสียชีวิตแล้วจึงจะลงความเห็นว่าเป็นการเสียชีวิตจริง และจากหลายเหตุการณ์ที่ปรากฎเป็นข่าวสังเกตได้มักจะเกิดกับคนสูงอายุ หรือ ผู้ป่วยที่อยู่ภาวะวิกฤต ที่โดยทั่วไปมักจะมีชีพจรที่เต้นอ่อนอยู่แล้ว เมื่อร่างกายในสภาวะที่วิกฤตบางทีครอบครัวคิดว่าเสียชีวิตแล้ว หรือ ในบางรายผู้ป่วยวิกฤต และหมดลมหายใจไป แต่ไม่ได้รับการตรวจด้วยเครื่องวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เพื่อชี้ชัดว่าเป็นการเสียชีวิตจึงเกิดการเข้าใจว่าเป็นการตายแล้วฟื้น อย่างเช่นเคส คุณตาหอก ที่อาจจะเจ็บป่วยด้วยโรคประจำตัวจนหมดสติ ชีพจรเต้นช้า ญาติจึงอาจเข้าใจว่าคุณตาตายแล้ว
