จับสึกโจรในคราบพระ ขับเก๋งตระเวนวัดขโมยพระพุทธรูปไว้ขายหาเงินซ่อมรถ

View icon 138
วันที่ 5 มิ.ย. 2567
ข่าวอาชญากรรม
แชร์
วันนี้ (5 มิ.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก นำเอาของกลาง ประกอบด้วย เศียรพระพุทธรูป เครื่องมืออุปกรณ์ช่างสำหรับใช้ก่อเหตุลักทรัพย์ พระบูชา พระพุทธชินราช และ ถ้วยชามสังคโลก มาจัดวางเผยแพร่ เพื่อให้วัดหรือผู้เสียหายได้ทราบหากถูกลักทรัพย์ไปก่อนหน้านี้ ให้มาดูของกลางได้

ต่อมา เวลาประมาณ 10.00 น. ที่ผ่านมา พล.ต.ต.นิคม เครือนพรัตน์ ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ รอง ผบก.ภ.จว.พิษณุโลก และ พ.ต.อ.ธัชพงศ์ วงศ์พัฒนานิวาศ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม ผู้ต้องหาก่อเหตุลักพระพุทธรูป วัตถุโบราณ เครื่องชามสังคโลก ในวัดราชบูรณะ วัดท่ามะปราง วัคคูหาสวรรค์ อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 พ.ค. 67 ที่ผ่านมา โดยมีพระครูประจักษ์ธรรมวินิต รองเจ้าวาสวัดท่ามะปราง หนึ่งในวัดที่ถูกคนร้ายก่อเหตุขโมยพระบูชา พระพุทธชินราช

พระครูประจักษ์ธรรมวินิต เปิดเผยว่า พระพุทธรูปเหล่านี้เป็นของชาวพุทธศาสนิกชนที่นำมาถวายวัด ประมาณ 10 กว่าปีแล้ว ไม่ทราบมูลค่าที่แท้จริง แต่ในปัจจุบัน พระพุทธชินราช ขนาด 9 นิ้ว ราคาก็ไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท แน่นอน ทั้งนี้เชื่อมั่นว่าตำรวจพิษณุโลกจะสามารถติดตามจับกุมได้อย่างแน่นอน

ด้าน พ.ต.อ.ธัชพงศ์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 6 และตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลก ได้ร่วมกันจัดกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ รวมทั้งบริเวณโดยรอบ พบว่าก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุ และเส้นทางที่คนร้ายใช้ในการหลบหนีหลังเกิดเหตุ คนร้ายใช้ยานพาหนะรถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียน ขข 5973 พิษณุโลก ซึ่งผู้ครอบครองคือ นายบุญเชิด กลิ่นแย้ม อายุ 59 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ ต.ศรีภิรมย์ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ซึ่งมีตำหนิรูปพรรณตรงกับคนร้ายที่ไปก่อเหตุที่ภายในวัดราชบูรณะ วัดคูหาสวรรค์ และวัดท่ามะปราง จ.พิษณุโลก

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานในคดี เพื่อขอศาลจังหวัดพิษณุโลกอนุมัติหมายจับ นายบุญเชิด ต่อมาศาลจังหวัดพิษณุโลก ได้อนุมัติหมายจับ ที่ 270/2567 ลงวันที่ 4 มิ.ย. 67 ในข้อหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ในสถานที่บูชาสาธารณะ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม”

กระทั่งได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายบุญเชิด บวชเป็นพระอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง ใน อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย จึงได้เดินทางไปที่วัด เมื่อเดินทางไปถึงสถานที่ดังกล่าว พบนายบุญเชิด ยังเป็นพระภิกษุสงฆ์ ยืนอยู่บริเวณภายในวัด เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวและแสดงหมายจับศาลเข้าจับกุม

สอบสวน นายบุญเชิด ให้การรับสารภาพว่า เมื่อวันที่ 30 และ 31 พ.ค. 67 เวลาประมาณ 22.00 ถึง 01.50 น. ได้ขับรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวไปตระเวนก่อเหตุลักพระพุทธรูป ภายในวัดคูหาสวรรค์ วัดท่ามะปราง และวัดราชบูรณะ โดยได้นำอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุ และพระพุทธรูปจำนวนหลายองค์ที่ลักมาไปเก็บซุกซ่อนไว้ภายในรถยนต์เก๋งคันดังกล่าว แล้วขับหลบหนีจากพื้นที่ กระทั่งถูกจับกุมได้ดังกล่าว และทำการศึกลาสิกขาบท

ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุขโมยพระบูชา พระพุทธชินราช เนื่องจากต้องการหาเงินไปซ่อมรถที่มีสภาพเก่า โดยหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต พบว่า พระบูชา พระพุทธชินราช เป็นที่ต้องการของตลาด มีการซื้อขายกันในราคาสูง ซึ่งไม่ได้มาดูลาดเลาก่อน แต่ใช้วิธีการหาข้อมูลและดูภาพจากโทรทัศน์และอินเทอร์เน็ต ว่าที่ไหนมีพระบูชา พระพุทธชินราชวางอยู่บ้าง จึงวางแผนเอาไว้ และเดินทางตระเวนก่อเหตุในคืนเดียว โดยเอาพระมาเก็บไว้และรอขายในช่องทางเฟซบุ๊ก