ญาติค้านประกันตัว ภรรยาเสี่ยต้น

View icon 74
วันที่ 4 มิ.ย. 2567
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - เช้าวันนี้ ตำรวจพาตัวผู้ต้องหาที่เป็นคนขับรถพามือปืนไปยิง "เสี่ยต้น" เจ้าของธุรกิจสอนนวดแผนไทย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ส่วน "ภรรยา" ที่เป็นคนบงการฆ่าสามี ถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องขัง ไม่มีท่าทีเคร่งเครียด แต่อย่างใด

พนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง พาตัว นายวีรภัทร 1 ใน 3 ผู้ต้องหาแก๊งลอบยิงเสี่ยต้น ที่เป็นคนทำหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์ให้กับมือปืน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยได้คุมตัวไปทำแผนด้วยกันทั้งหมด 3 จุด จุดแรกอยู่บริเวณหน้าโรงเหล้าแสงจันทร์ ถนนรามอินทรา ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายได้ไปสังเกตการณ์ หลังนัดหมายเสี่ยต้น ไปเจอภรรยาที่ร้าน

ส่วนจุดที่ 2 เป็นทางเท้าริมถนนประดิษฐ์มนูธรรม จุดนี้ ผู้ต้องหาให้การว่า ได้นำปืนไปซ่อนไว้ในพงหญ้า หลัง นายณัฐพล มือปืน ส่งปืนให้ แต่ไม่กล้านำไปยิง จึงได้แต่นำปืนไปซ่อนไว้

และจุดที่ 3 คือ ก่อนขึ้นทางด่วนฉลองรัช ขาเข้าเมือง หลังเอาปืนที่ซ่อนเอาไปในพงหญ้า ก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์ประกบรถยนต์ของเสี่ยต้น ก่อนจะลงมือยิง ซึ่งพอทำแผนครบทั้ง 3 จุด ก็คุมตัวผู้ต้องหากลับไปที่ สน.โชคชัย ซึ่งเป็นสถานที่ฝากคุมตัวชั่วคราว

ขณะที่ ผู้กำกับการ สน.วังทองหลาง เปิดเผยว่า เหตุที่ต้องแยกสอบปากคำ และแยกสถานที่ควบคุมตัวชั่วคราว ก็เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เตี๊ยมคำให้การกัน ส่วนช่วงสายของวันนี้ ก็จะเรียกผู้ต้องหามาสอบปากคำเพิ่ม ก่อนจะพาตัวไปขออำนาจศาลอาญาฝากขังในวันพรุ่งนี้ ซึ่งในท้ายคำร้องของพนักงานสอบสวน จะระบุคัดค้านการประกันตัว เพราะเกรงว่าผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

เช่นเดียวกับกลุ่มญาติของเสี่ยต้น ที่ไปยื่นคัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาเช่นกัน เพราะยังเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม รวมถึงวันพรุ่งนี้ จะตามไปยื่นคัดค้านการประกันตัวที่ศาลด้วย

โดยแม่ของเสี่ยต้นเปิดเผยทั้งน้ำตา ไม่คาดคิดมาก่อนว่า อดีตลูกสะใภ้จะมาจ้างวานมือปืนฆ่าลูกชายตนเอง ส่วนเรื่องที่จะอโหสิกรรมให้หรือไม่นั้น ค่อยมาว่ากันอีกครั้งหลังเสร็จสิ้นคดี

ขณะที่ผู้สื่อข่าวได้สอบถามกับร้อยเวรประจำห้องขัง ทราบว่า ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา นางสาววรรณิภา หรือ มด ภรรยาของเสี่ยต้น ไม่ได้แสดงท่าทีเคร่งเครียด หรือเรียกร้องอะไรเป็นพิเศษ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะในห้องขัง มีผู้ต้องหาคดีเมาแล้วขับถูกควบคุมตัวอยู่ จึงได้พูดคุยระบายความเครียดกัน นอกจากนี้ยังมีญาตินำหนังสือ 4 เล่ม ที่เกี่ยวกับปรัชญาชีวิตและการบริหารจัดการเงิน มามอบให้ ส่วนน้องสาวก็นำขนม อาหารต่าง ๆ มาเยี่ยม

ทีนี้มีอีกประเด็นที่ญาติตั้งข้อสังเกต ก็คือเรื่องที่ว่า ประกันชีวิตจะจ่ายเงิน 16 ล้านบาท กรณีที่เสี่ยต้นเสียชีวิต จะมีโอกาสเป็นโมฆะได้หรือไม่ ก็ต้องมาดูกันก่อนว่า ถ้าจะไม่จ่ายเพราะอะไรได้บ้าง ข้อแรก เพราะมีการปกปิด ให้ข้อมูลเท็จ เป็นการฆ่าตัวตายภายใน 1 ปี หรือผู้รับผลประโยชน์ฆ่าตัวตาย สัญญากรมธรรม์หมดอายุ หรือจริง ๆ แล้ว "เสี่ยต้น" ไม่ได้ทำประกันชีวิตไว้ตั้งแต่แรก