222 วัน ไล่ล่า “แป้ง นาโหนด”

View icon 180
วันที่ 31 พ.ค. 2567
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เปิดแผนปฏิบัติงานไล่ล่า “เสี่ยแป้ง นาโหนด” นักโทษคดีจ้างวานฆ่า อย่างไม่ลดละ จนที่สุดสามารถจับกุมได้แบบง่าย ๆ ที่ประเทศอินโดนีเซีย  รวมระยะเวลาหลบหนี 222 วัน

วันนี้ (31 พ.ค.67) มีการเผยแพร่คลิปภาพจากเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจจับกุมเสี่ยแป้ง นาโหนด โดยเป็นคลิปภาพ ช่วงตีสี่ ยี่สิบสองนาที วันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผู้หญิงคนหนึ่ง แต่งกาย กางเกงยีน ขายาว เสื้อยืดสีขาว เสื้อคลุมสีฟ้าแขนยาว สะพายกระเป๋าสีดำ กำลังวิ่งออกจากห้องพักในคอนโดมิเนียมหรูกลาง กลางเมืองเมดัน จังหวัดสุมาตราเหนือ ประเทศอินโดนีเซีย จากนั้นเปิดประตูหนีไฟวิ่งหนีลงไปด้านล่าง

ไม่นาน ก็มีผู้ชายคนหนึ่ง เหมือน เสี่ยแป้ง นาโหนด เดินออกมาจากห้องพัก ลักษณะกำลังเร่งรีบ เดินไปใส่เสื้อยืดสีดำแขนไป และสวมกางเกงขาสั้น แล้วไปกดลิฟ แต่ไม่ทันใจ ชายคนนี้ ก็เดินลงประตูหนีไฟ ก่อนจะเดินย้อนออกมาจากประตูหนีไฟ แล้วเดินกระวนกระวายอยู่หน้าลิฟ 

66591c2db08462.10448256.jpg

โดยเบื้องหลังการจับกุมเสี่ยแป้ง นาโหนด เริ่มจากตำรวจพบเบาะแส มีผู้หญิงไทยกลุ่มหนึ่งมีความสนิทสนมกับเสี่ยแป้ง เดินทางไปประเทศอินโดนีเซียบ่อยครั้ง คาดว่าไปหาเสี่ยแป้ง ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 จึงประสานงานกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ให้ตรวจสอบข้อมูลผู้หญิงกลุ่มนี้มาระยะหนึ่ง จนทราบว่า วันที่ 12 พฤษภาคม ผู้หญิงเป้าหมายคนหนึ่ง เดินทางจากเมืองเมดาน (Medan) มายังท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง จึงรู้ตำหนิ รูปพรรณ

ตำรวจชุดสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 9 ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ดีเอสไอ ป.ป.ส. จึงแจ้ง พันตำรวจเอก ทวี สอดแส่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก่อนรายงาน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี รับทราบ จากนั้น นาย เศรษฐา จึงแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ 1 ชุด และอนุมัตให้เดินทางไปยังประเทศอินโดนีเซีย เพื่อติดตามตัว เสี่ยแป้ง นาโหนด ตามหมายจับอินเตอร์โพล หรือ หมายแดง

เจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ ประสานงานกับตำรวจอินโดนีเซีย ก่อนวางแผนไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด จนพบรถรับจ้าง ผ่านแอปพลิเคชันต้องสงสัย ว่า รับหญิงไทย ไปส่ง

ตำรวจอินโดนีเซีย จึงเรียกมาสอบสวน คนขับรับว่า ได้รับผู้หญิงไทย ไปส่งที่คอนโดมิเนียมหรูแห่งหนึ่ง กลางเมืองเมดาน และเคยพบเป้าหมายของตำรวจ 1 ครั้ง

ตำรวจไล่กล้องวงจรปิดต่อเนื่อง และเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยมาสอบสวน พบวันที่ 6 พฤษภาคม มีชายไทยทะเลาะ กับหญิงไทย

เมื่อนำรูป เสี่ยแป้ง ให้ พนักงานรักษาความดู ยืนยันว่าเป็นคนเดียวกัน ตำรวจจึงมั่นใจเป้าหมาย แต่เมื่อตำรวจอินโดนีเซียขึ้นไปยังห้องพัก กลับไม่พบ จึงสืบสวนต่อพบว่า แท้จริงแล้ว ห้องพักในคอนโดมีเนียมดังกล่าว เสี่ยแป้ง  พักอยู่กับ หญิงชาวอินโดนีเซียคนหนึ่ง มาระยะหนึ่งแล้ว และพบว่าผู้หญิงคนนี้ เพิ่งเดินทางกลับมาจากเกาะบาหลี และเข้าพักรักษาตัวจากการป่วยอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ตำรวจตามไปสอบสวน

หญิงคนนี้ ให้การว่า ทะเลาะกับเสี่ยแป้ง ที่เกาะบาหลี เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม จึงเดินทางกลับมายังเมืองเมดาน ก่อนเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ จึงประสานกับตำรวจเกาะบาหลี ไปจับกุมเสี่ยแป้งได้ในที่สุด

สำหรับระยะเวลาที่เสี่ยแป้ง แหกคุก จนถึงถูกจับกุมรวม 222 วัน ซึ่งการหลบหนีต้องใช้คำว่ามหากาพย์ของการแหกคุก แทบไม่ต่างกับในซีรีส์ต่างประเทศ เริ่มตั้งแต่ ที่เจ้าตัวแกล้งเป็น หมดสติ ขาอ่อนแรง ต้องให้ไปนอนดูอาการที่ โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช

แล้วจ้างคนให้นำ “คีมตัดเหล็ก” ไปให้ตัดโซ่พันธนาการ  มีคนช่วยพาขึ้นรถหลบหนี วงจรปิดไล่ภาพจนไปเจอตัวว่า กบดานบนเทือกเขาบรรทัด และที่นี่ก็เป็นจุดที่ตำรวจระดมสรรพกำลัง ไล่ล่า มีการยิงปะทะ พบร่องรอยการอาศัยอยู่ในป่า กินเวลาอยู่นานกว่า 17 วัน สุดท้ายคว้าน้ำเหลว กลายเป็นปริศนาว่าหลบหนีไปได้อย่างไร
เท่านั้นไม่พอ เจ้าตัวยังส่งคลิปวีดีโอมาร้องขอความเป็นธรรม ว่าถูกกลั่นแกล้งจากคู่กรณี จนสุดท้าย 22 ธ.ค.66 ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่า เสี่ยแป้ง หลบหนีออกนอกไทยไปได้แล้วจริง ๆ

ด้านพันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม บอกว่าวันนี้ (31พค.) จะพิจารณาไปรับตัวเสี่ยแป้ง ที่กรุงจากาต้า ประเทศอินโดนีเซีย ส่วนพอกลับถึงไทยจะนำตัวไปไว้เรือนจำใด เป็นเรื่องสำคัญที่เจ้าหน้าที่จะหารือกันอีกครั้ง แต่ที่แน่ ๆ ต้องไม่ใช่เรือนจำในพื้นที่อิทธิพลของเสี่ยแป้ง ตัวเลือกที่เล็ง ๆ ไว้  มีทั้งเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และเรือนจำความมั่นคงสูง (เขาบิน) จังหวัดราชบุรี