สนามข่าว 7 สี - เมื่อวานนี้ เช้านี้ที่หมอชิต นำเสนอเรื่องพนักงานออฟฟิศ ที่โพสต์ภาพรถยนต์เพื่อนบ้านมาจอดขวางทางเข้าออกหน้าบ้าน ลงในโลกโซเชียล จนทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ บุกมาอาละวาดถึงหน้าบ้าน ล่าสุด เรื่องนี้เหมือนจะเป็นหนังคนละม้วน
กรณีนายสงกรานต์ อายุ 45 ปี พนักงานบริษัทเอกชน เข้าแจ้งความต่อกับตำรวจ สภ.บางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี หลังเพื่อนบ้าน ชื่อว่า เจ๊จู บุกมาเคาะประตูถึงในบ้าน เรียกให้ออกไปเคลียร์เรื่องที่โพสต์คลิปวิดีโอในโซเชียล เรื่องการจอดรถขวางหน้าบ้านจนอีกฝั่งไม่พอใจ พาพวก 3-4 คน มาบุกต่อว่า
ทีมข่าวช่อง 7HD ไปยังหมู่บ้านที่เกิดเหตุ แต่ไม่พบนายสงกรานต์ เพราะไปทำงาน จึงโทรศัพท์สอบถาม ก็บอกตอนนี้แค่ไปลงบันทึกประจำวันกับตำรวจไว้ และรู้สึกกังวล ไม่อยากให้ข้อมูล เพราะแค่โพสต์คลิปฯ ยังถูกตำหนิ ตอนนี้อยากให้เรื่องจบ
แต่ก็เหมือนเรื่องนี้จะพลิกล็อก เมื่อนักข่าวเรา เจอกับแม่ของ นายสงกรานต์ ยอมรับว่า เป็นคนอนุญาตให้คู่กรณี นำรถมาจอดหน้าบ้านได้เอง เพราะลูกชายมีรถยนต์จอดอยู่ภายในบ้านไม่ค่อยใช้รถออกไปไหน ที่ผ่านมาถ้าลูกจะให้ขยับรถ เขาก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี กระทั่งเกิดเรื่องแม่ก็รู้สึกลำบากใจ
นายบอย เพื่อนบ้าน หนึ่งในชายฉกรรจ์ 3 คนในคลิปวิดีโอ ที่ถูกกล่าวหาว่า เป็นการยกพวกไปข่มขู่ ยืนยันไม่ใช่ชายฉกรรจ์ แต่เป็นแค่เพื่อนบ้าน ที่ได้ยินเสียงทะเลาะกัน จึงมาดูเหตุการณ์ และห้ามปราม ยืนยันเจ๊จู ไม่ใช่ผู้มีอิทธิพล เพราะขนาดจิ้งหรีดก็ยังกลัว
ทีนี้ดูมุมกฎหมาย จะช่วยแก้ปมการจอดรถขวางหน้าบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะ ทนายบอกว่า ยังไงก็ผิดกฎหมายอาญา ฐานสร้างความเดือดร้อนรำคาญ
ก็เรียกว่า พื้นที่สาธารณะทำอะไรตามอำเภอใจไม่ได้ แต่กรณีเพื่อนบ้านคนนี้ ก็เป็นการโอละพ่อ ของแม่ลูก ที่ไม่ได้คุยกันว่า ให้เขาจอดรถได้ แต่ก็มีคำแนะนำ ถ้าบ้านไหนเจอ คนจอดรถขวางหน้าบ้าน แล้วไม่ยินดี ถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐาน ก่อนเรียกเจ้าของรถมาคุยตกลงกัน ถ้าตกลงไม่ได้ นำหลักฐานทั้งหมดไปแจ้งตำรวจ ก่อนดำเนินคดีตามหมาย
