สองตายาย เพิ่งรู้ตัวถูกชายอ้างเป็นทนายความ หลอกเอาที่ดินไปขายฝากร้านทองแห่งหนึ่ง ที่ จ.ปราจีนบุรี ในราคา 30 ล้านบาท สุดท้าย กำลังถูกร้านทองไล่ที่ เครียดกินไม่ได้นอนไม่หลับ จนจะกินยาจบชีวิตไปพร้อมกัน
วันที่ 25 พ.ค.67 ผู้สื่อข่าวจังหวัดปราจีนบุรี รับเรื่องร้องทุกข์จาก น.ส.วาสนา ชาวบ้าน อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ว่าตา-ยาย ถูกหลอกให้เซ็นชื่อเอาโฉนดที่ดินว่าจะไปค้ำประกันแต่เอาไปขายฝาก จำนวนเงิน 30 ล้านบาท เมื่อสองตายายทราบถูกหลอกถึงกับเครียดและป่วยหนัก วางแผนที่จะใช้ยาคลุกข้าวให้สามีกินและจะกินยาตายตามกันไป เมื่อเพื่อนบ้านรู้ข่าวก็เครียดไปด้วย เพราะไม่รู้ว่าจะมีใครช่วยเหลือได้ ที่สองตา-ยาย กินไม่ได้นอนไม่หลับแล้วป่วยมีโรคประจำตัว รู้สึกสงสารจึงหาทางติดต่อผู้สื่อข่าว เพื่อขอความเป็นธรรมให้กับสองตา-ยาย ด้วย นั้น
หลังรับแจ้ง จึงเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 65 หมู่ 13 ต.หัวหว้า อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ได้พบกับนายประเสริฐ อายุ 83 ปี และนางบุญธรรม อายุ 67 ปี พบว่าทั้งสอง ตา-ยาย ยังคงอยู่ในอาการซึมเศร้าและเครียดจัด ก่อนที่ผู้สื่อข่าวจะขอดูหลักฐานโฉนดที่ดิน พบว่าที่ดินสองตา-ยายถูกหลอกไปนั้น เป็นที่ดินในพื้นที่เขตอุตสาหกรรม ที่มีราคาซื้อขายไร่ละ 5-10 ล้านบาท
นายประเสริฐ บอกว่า เมื่อปลายปี 2561 ได้รู้จักกับ นายโชคชัย ที่อ้างว่าเป็นทนายความมาระยะหนึ่ง และถูกนายโชคชัย ได้หลอกเอาที่ดินไป 7 แปลง จำนวน 18 ไร่ โดยบอกว่าเป็นการเซ็นค้ำประกัน จึงขอให้ไปเซ็นที่สำนักงานที่ดินจังหวัดปราจีนบุรี แล้วก็ให้เงินมาที่ละ 20,000 บาท และ 30,000 บาท หลังจากนั้นไม่รู้เรื่องอะไรอีกเลย ต่อมานายโชคชัย ได้มาหลอกเอาโฉนดที่ดินของตนเองอีก จำนวน 4 แปลง จำนวน 12 ไร่ รวมทั้งหมด 30 ไร่ เพื่อเซ็นค้ำประกันอีก ตนเองไม่รู้หนังสือ มีความรู้แค่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ในเรื่องนี้หลังจากรู้ว่าถูกหลอกเอาโฉนดที่ดินไปขายฝากให้กับร้านทองแห่งหนึ่ง มียอดเงินทั้งหมด 30 ล้านบาท สองตา-ยาย จึงได้ไปแจ้งความกับ พ.ต.ต.โสภณ จีนะสุทธิ์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ 2567 วันนี้รู้สึกดีใจระดับหนึ่ง ที่ได้ร้องทุกข์กับผู้สื่อข่าวเพื่อขอความเป็นธรรม และขอยืนยันว่าตนเองและสามีถูกหลอกให้เซ็นเอกสารจริงๆ
